คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 238/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์จำเลยตกลงกันว่าจำเลยรับสุกรโจทก์ไป 40 ตัว ไปขาย จำเลยคิดราคาให้โจทก์กิโลกรัมละ 4 บาท 20สตางค์ส่วนราคาที่จะขายได้เกินกว่านั้น และน้ำหนักจะเพิ่มขึ้นจากเวลาที่รับจากโจทก์ตกเป็นของจำเลยเงินโจทก์จะติดตามไปรับหรือจำเลยจะมอบฉันทะให้ตัวแทนโจทก์ไปรับเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องที่จำเลยซื้อเชื่อสุกรไปจากโจทก์แต่เป็นเรื่องที่จำเลยรับสุกรไปขายแทนโจทก์และหากจะฟังว่าเป็นเรื่องซื้อขายโจทก์ก็ได้มอบสุกรให้จำเลยไปเป็นการชำระหนี้บางส่วนแล้วแม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ก็ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าสุกรได้(ฎีกาที่ 1434/2495)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมาขอรับสุกรโจทก์ไปขายให้แก่บริษัทเนื้อสัตว์ทหารสามัคคีจำกัด คิดราคาให้โจทก์กิโลกรัมละ 4 บาท 50 สตางค์ ส่วนราคาที่จะขายได้เกินกว่านั้น และน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากเวลาที่รับไปจากโจทก์ตกเป็นของจำเลย โดยโจทก์ติดตามไปรับเงินหรือจำเลยจะทำใบมอบฉันทะให้ตัวแทนโจทก์ไปรับเงิน จำเลยส่งสุกรและไม่ทำใบมอบฉันทะให้ตัวแทนโจทก์รับเงิน จำเลยไปรับเสียแต่ผู้เดียว จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้เงินค่าสุกร 17,430 บาท ฯลฯ

จำเลยต่อสู้ว่า สุกรที่รับไป 40 ตัว เป็นของจำเลยส่วนหนึ่งที่ฝากโจทก์ไว้ทั้งหมด 67 ตัว และตัดฟ้องว่า ตามฟ้องเป็นเรื่องซื้อขายสังหาริมทรัพย์มีราคาเกินกว่า 500 บาท ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ฯลฯ โจทก์จะฟ้องบังคับไม่ได้ กับฟ้องแย้งให้โจทก์ส่งมอบสุกรของจำเลยที่ค้างฝากกับโจทก์อีก 27 ตัว

โจทก์แก้ฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้องแย้ง

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้เงินค่าสุกร ฯลฯ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าสุกรเป็นของโจทก์จำเลยไม่ได้ฝากไว้ และการที่จำเลยรับสุกรไปจากโจทก์นั้น ไม่ใช่เรื่องที่จำเลยซื้อเชื่อสุกรไปจากโจทก์ แต่เป็นเรื่องที่จำเลยรับสุกรไปขายแทนโจทก์เท่านั้น หากจะฟังว่าเป็นเรื่องซื้อขาย โจทก์ก็ได้มอบสุกรให้จำเลยไปเป็นการชำระหนี้บางส่วนแล้ว แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ก็ฟ้องขอให้บังคับได้ ตามตัวอย่างคำพิพากษาฎีกาที่ 1434/2495 ระหว่าง นางชั้น แจ่มจันทร์ โจทก์ นางวลี แซ่โค้ว จำเลย

พิพากษายืน

Share