แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยให้การว่าที่ดินที่โจทก์ฟ้อง โจทก์ จำเลยได้ทำการประนีประนอมยอมความกันโดยศาลจดรายงานไว้เป็นหลักฐานในคดีหนึ่งแล้ว
ในวันชี้สองสถาน โจทก์รับว่าที่ดินที่ฟ้องเป็นที่รายเดียวกันกับที่ยื่นคำร้องคัดค้านไว้ต่อศาลในคดีที่จำเลยอ้างจริงดังนี้ ศาลจะฟังตามที่จำเลยอ้างว่าคดีนี้มีประเด็นอย่างเดียวกับคดีก่อน และโจทก์จำเลยได้ประนีประนอมยอมความกันแล้วไม่ได้. เพราะโจทก์มิได้แถลงรับทั้งคดีที่กล่าวอ้างก็ยังไม่มีคู่ความใดอ้างสำนวนเป็นพยาน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินหมายเลข 1, 2, 3 เป็นของโจทก์
จำเลยให้การว่า ที่ดินหมาย 1 จำเลยไม่เกี่ยวข้องส่วนที่หมาย 2-3 โจทก์จำเลยได้ทำการประนีประนอมยอมความกันโดยศาลจดรายงานไว้เป็นหลักฐานในคดีดำที่ 3/2489 แล้ว โจทก์ย่อมหมดสิทธิเรียกร้องอีก
ในวันชี้สองสถานโจทก์รับว่าที่ดินหมาย 2-3 เป็นที่รายเดียวกับที่ยื่นคำร้องคัดค้านไว้ต่อศาลในคดีดำที่ 3/2489 ซึ่งศาลได้พิจารณาเสร็จไปแล้ว
ศาลชั้นต้นงดสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาคดีต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์จำเลยรับรองว่าที่ดินหมาย 2-3 เป็นที่รายเดียวกับที่โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านในคดีดำที่ 3/2489 ส่วนข้อที่จำเลยอ้างว่า คดีนี้มีประเด็นเดียวกับคดีก่อนและโจทก์จำเลยได้ประนีประนอมยอมความกันในคดีก่อนแล้วนั้นโจทก์มิได้แถลงรับและคดียังไม่มีการอ้างอิงพยานหลักฐานอย่างใด ๆ ที่จะฟังได้เช่นจำเลยกล่าวอ้างทั้งยังไม่ปรากฏในขณะนั้นว่าคดีก่อน มีข้อพิพาทอย่างใดประนีประนอมกันอย่างไร ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอ้างสำนวนคดีดำที่ 3/2489 มาเป็นพยาน ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว จึงพิพากษายืนตาม