คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2377/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์นั้นผู้เป็นเจ้าของจะต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด และต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานการพิมพ์ตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการพิมพ์อาจต้องรับโทษทางอาญา จึงเป็นกิจการที่ต้องทำเองเฉพาะตัว จะตั้งตัวแทนให้เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์แทนตัวการหาได้ไม่ สัญญาที่โจทก์ตั้งให้จำเลยเป็นตัวแทนถือใบอนุญาตเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์แทนตัวการจึงเป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์ต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย และเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนย่อมเป็นโมฆะกรรม ศาลจึงไม่อาจบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาตามคำขอของโจทก์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์บางกอกโจวเป้า ตามใบอนุญาตเลขที่ 86/2513 โดยใช้ชื่อของนายประสงค์ คารวะตรีเดช เป็นเจ้าของต่อมา พ.ศ. 2514 โจทก์ตกลงให้จำเลยเป็นผู้ถือใบอนุญาตดังกล่าวในฐานะเป็นตัวแทนของโจทก์ โดยโอนเป็นชื่อของจำเลยถือใบอนุญาต ตามใบอนุญาตเลขที่ 75/2514 ต่อมา พ.ศ. 2520 โจทก์ประสงค์ จะให้จำเลยโอนการเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ดังกล่าวเป็นชื่อโจทก์ แต่จำเลยไม่ยอม กลับไปขอเปลี่ยนชื่อเป็นหนังสือพิมพ์ไทยสันติสุขตามใบอนุญาตเลขที่ 104/2520 จึงขอให้ศาลบังคับ

จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง สัญญาดังกล่าวขัดต่อกฎหมายเป็นโมฆะ ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิจารณาตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484มาตรา 24 ประกอบกับประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 17 ลงวันที่ 27 ตุลาคม2501 ข้อ 1 วรรคแรก แล้วจะเห็นได้ว่าบุคคลใดที่จะเป็นเจ้าของหนังสือได้จะต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด และต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานการพิมพ์ตามวิธีการที่กฎหมายบัญญัติไว้ เมื่อเจ้าพนักงานการพิมพ์อนุญาตแล้วจึงจะเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ได้ หากปฏิบัติฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการพิมพ์อาจต้องรับโทษในทางอาญาดังนี้ เห็นได้ว่าเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์เป็นกิจการที่ต้องกระทำเองเฉพาะตัวจะตั้งตัวแทนให้เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์แทนตัวการหาได้ไม่ ฉะนั้น สัญญาตาม เอกสารหมาย จ.1 ซึ่งคู่กรณีตกลงกันให้ตัวแทนเป็นผู้ถือใบอนุญาตการเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์แทนตัวการจึงเป็นนิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้ง โดยกฎหมาย และเป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ย่อมเป็นโมฆะกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 ศาลจึงไม่อาจบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share