คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2376/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

ข้อบังคับการทำงานของจำเลยกำหนดโทษทางวินัยไว้2สถานคือสถานเบาและสถานหนักข้อ18ก.เป็นโทษสถานเบาซึ่งกำหนดข้อห้ามในเรื่องไม่มีความสำคัญข้อ18ก.23กำหนดว่าละเลยไม่เอาใจใส่ต่อประกาศและคำสั่งต่างๆของโรงแรมจึงหมายความว่าเป็นเรื่องที่จำเลยออกประกาศหรือคำสั่งใดๆที่กำหนดถึงการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องที่ไม่มีความสำคัญนักจำเลยมีคำสั่งย้ายโจทก์ไปปฏิบัติหน้าที่พนักงานขายจัดเลี้ยงการที่โจทก์ขัดขืนไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อจำเลยได้ซึ่งมิใช่เป็นความผิดเล็กน้อยอันจะพึงได้รับโทษสถานเบาเมื่อระเบียบข้อบังคับการทำงานของจำเลยมิได้กำหนดความผิดในเรื่องนี้ไว้โดยเฉพาะกรณีต้องปรับด้วยบทกฎหมายที่มีอยู่คือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา583เมื่อโจทก์จงใจขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยผู้เป็นนายจ้างจำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องบอกล่าวล่วงหน้า. คำว่าค่าฤชาธรรมเนียมตามมาตรา27แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานหมายความรวมถึงค่าทนายความด้วยคู่ความจึงได้รับยกเว้นไม่ต้องชำระ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างตำแหน่งผู้จัดการแผนกบุคคลต่อมาจำเลยลดตำแหน่งของโจทก์ให้ไปทำหน้าที่พนักงานขายจัดเลี้ยงแผนกอาหารและเครื่องดื่มโดยไม่ทราบเหตุผลและต่อมาได้ปลดโจทก์ออกจากงานเป็นการกลั่นแกล้งโดยโจทก์ไม่มีความผิดเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าเสียหายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีพร้อมดอกเบี้ยและให้จำเลยออกหนังสือรับรองการทำงานกับใช้ค่าทนายความแทนโจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่าโจทก์มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบในแผนกบุคคลแทนจำเลยที่2มิได้เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลโจทก์ไม่มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานทั้งได้ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องผิดพลาดและละเลยต่อหน้าที่ใช้อำนาจส่อไปในทางทุจริตรับสมัครพรรคพวกเข้าทำงานโดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบจัดหาพนักงานนั่งดื่มและต้อนรับได้ไม่ครบ10คนแต่รับเงินค่าจ้างไปเต็มจำนวนและไม่คืนให้จำเลยที่2สั่งทำตู้แช่และตู้น้ำกลั่นโดยมิได้รับอนุญาตจากจำเลยที่2และต่อมาปรากฏว่าใช้การไม่ได้จำเลยจึงย้ายโจทก์ไปเป็นผู้บริหารการขายโดยมิได้กลั่นแกล้งบีบบังคับหรือลดตำแหน่งของโจทก์กลับทำให้โจทก์ได้รับค่าพาหนะและค่ารับรองเพิ่มขึ้นแต่โจทก์ไม่ยอมย้ายและไม่ไปรายงานตัวในหน้าที่ใหม่และได้โต้แย้งคัดค้านด่าหมิ่นประมาทท้าทายจำเลยที่2จำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์และจ่ายค่าชดเชยกับสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้โจทก์แล้วค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีโจทก์ทำงานในปี2528ได้เพียง2เดือนจึงมีสิทธิได้รับเพียง268.67บาทขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าโจทก์บกพร่องหลายประการมีเหตุเลิกจ้างได้ไม่เป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรมพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี282.10บาทพร้อมดอกเบี้ยให้ออกหนังสือรับรองการทำงานให้โจทก์คำขออื่นให้ยกสำหรับค่าทนายความการดำเนินคดีในศาลแรงงานได้รับยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าฤชาธรรมเนียมจึงให้ยกเช่นเดียวกัน
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับเหตุเลิกจ้างและค่าฤชาธรรมเนียมดังนี้
ตามระเบียบข้อบังคับการทำงานของจำเลยที่1ข้อ18ได้กำหนดโทษทางวินัยไว้2สถานคือสถานเบาและสถานหนักตามข้อ18ก.เป็นเรื่องที่กำหนดถึงการกระทำที่จะถือว่าผิดวินัยและมีโทษสถานเบารวม36ข้อเหตุที่จำเลยที่2ได้ปลดโจทก์นั้นก็คือไม่ปฏิบัติและขัดขืนคำสั่งให้สับเปลี่ยนหน้ที่ปัญหาว่าโจทก์ได้กระทำผิดวินัยตามระเบียบข้อบังคับการทำงานของจำเลยที่1ข้อ18ก.23หรือไม่ศาลฎีกาเห็นว่าวินัยและโทษทางวินัยตามข้อ18ก.นี้เป็นโทษทางวินัยสถานเบาซึ่งกำหนดข้อห้ามไว้ในเรื่องที่ไม่มีความสำคัญนักเช่นไม่มีมารยาทในการรับรองแขกใช้กิริยาวาจาพยาบโลนหลับขณะอยู่ในหน้าที่ผิวปากครวญเพลงเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นต้นสำหรับข้อ18ก.23กำหนดไว้ว่าละเลยไม่เอาใจใส่ต่อประกาศและคำสั่งต่างๆของโรงแรมซึ่งเป็นเรื่องที่จำเลยที่1ออกประกาศหรือคำสั่งใดๆที่กำหนดถึงการปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องที่ไม่มีความสำคัญนักจำเลยที่1จึงวางบทลงโทษทางวินัยไว้สถานเบาเช่นเดียวกับข้อกำหนดข้ออื่นๆสำหรับการขัดคำสั่งที่ให้ย้ายโจทก์ไปปฏิบัติหน้าที่พนักงานขายจัดเลี้ยงและโจทก์ขัดขืนคำสั่งโดยไม่ยอมปฏิบัตินั้นตามกรณีอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อจำเลยที่1ได้ซึ่งมิใช่เป็นความผิดเล็กน้อยอันจะพึงได้รับโทษสถานเบาเมื่อระเบียบข้อบังคับการทำงานของจำเลยที่1มิได้กำหนดความผิดในเรื่องนี้ไว้โดยเฉพาะกรณีก็ต้องปรับด้วยบทกฎหมายที่มีอยู่ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อโจทก์จงใจขัดคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่1ผู้เป็นนายจ้างแล้วจำเลยที่1จึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา583คำสั่งปลดโจทก์ของจำเลยที่1จึงชอบแล้ว
คำว่าค่าฤชาธรรมเนียมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522มาตรา27หมายความถึงค่าธรรมเนียมศาลรวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นเช่นค่ารังวัดทำแผนที่ค่าป่วยการพยานและรวมถึงค่าทนายความด้วยค่าทนายความจึงเป็นส่วนหนึ่งของค่าฤชาธรรมเนียมซึ่งคู่ความได้รับยกเว้นไม่ต้องชำระ
พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีเพิ่มขึ้นอีกเป็นเงิน388บาท90สตางค์ให้แก่โจทก์และจำเลยที่2ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์เป็นส่วนตัวนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง

Share