คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2362/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ให้จำเลยที่ 1 กู้ยืมเงินไปเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำเลยที่ 1ออกเช็คพิพาทชำระหนี้เงินกู้แก่โจทก์ในการหาเสียงเลือกตั้งจำเลยที่ 1 จะใช้จ่ายเงินอย่างไรเป็นเรื่องของจำเลยที่ 1โดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับโจทก์ แม้จำเลยที่ 1 จะนำเงินไปแจกจ่ายแก่ราษฎรอันเป็นการฝ่าฝืนต่อ พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 แต่เมื่อโจทก์ไม่รู้ว่าจำเลยที่ 1กู้เงินไปเพื่อกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว สัญญากู้ย่อมสมบูรณ์เช็คพิพาทจึงมีมูลหนี้จำเลยทั้งสองต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์จำนวน 1,000,000 บาทโดยจำเลยที่ 1 ออกเช็ค 2 ฉบับ ชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าว มีจำเลยที่ 2เป็นผู้รับอาวัลเมื่อเช็คทั้งสองฉบับถึงกำหนด ปรากฏว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิดตามเช็คเพราะโจทก์และภรรยาให้เงินสนับสนุนจำเลยที่ 1 จำนวน 1,000,000 บาทโดยรู้เห็นเป็นใจให้จำเลยที่ 1 นำเงินไปแจกจ่ายราษฎรเพื่อจูงใจให้เลือกจำเลยที่ 1 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522เช็คพิพาทจึงไม่มีมูลหนี้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินตามเช็คจำนวน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย แก่โจทก์
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เช็คพิพาททั้งสองฉบับมีมูลหนี้เกิดจากการที่โจทก์ให้จำเลยที่ 1 กู้ยืมเงินไปเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเห็นว่า ในการหาเสียงเลือกตั้งจำเลยที่ 1 จะใช้จ่ายเงินอย่างไรเพื่อจะเอาชนะคู่แข่งขันนั้นน่าจะเป็นเรื่องของจำเลยที่ 1 โดยเฉพาะ ไม่เกี่ยวกับโจทก์ที่ให้จำเลยที่ 1 กู้ยืมเงินไปเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอีกทั้งได้ความจากจำเลยที่ 1 ว่า คณะกรรมการที่สนับสนุนจำเลยที่ 1 เป็นผู้นำเงินไปแจกจ่ายแก่ราษฎรตามแผนการที่วางไว้โดยไม่ปรากฏว่าโจทก์หรือภรรยาโจทก์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการแจกจ่ายเงินแต่อย่างไร จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าโจทก์รู้เห็นเป็นใจหรือสนับสนุนการกระทำของจำเลยที่ 1 อันเป็นการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คพิพาทให้โจทก์
พิพากษายืน

Share