คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามสภาพของพืชผลต้องติดอยู่กับต้นหรือปลูกปักอยู่ในดินการทำให้ผลไม้หลุดออกจากต้น เช่นสอยมะม่วงหรือตัดขนุนให้หล่นลงมา หรือขุดถอนมันหรือต้นหอมให้หลุดพ้นขึ้นจากดินโดยยังไม่ทันเอาไปด้วยนั้นยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปดังที่ท่านบัญญัติไว้ใน กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา288
คนร้ายถอนต้นหอมของผู้อื่นขึ้นมาทิ้งเกลื่อนอยู่บนร่องสวน ยังไม่ทันจะเอาไปพอดีเจ้าทรัพย์มาพบเสียก่อนดังนี้ เป็นผิดฐานพยายามลักทรัพย์เท่านั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ คดีได้ความว่า ในคืนวันโจทก์หา จำเลยได้นั่งถอนต้นหอมของนายกิมเซียงขึ้นมาทิ้งเกลื่อนอยู่บนร่องสวนหนักประมาณ 100 ก.ก. ราคา 35 บาท นายกิมเชียงถือคราดวิ่งไปจะจับจำเลย ๆ วิ่งหนี นายกิมเชียงไล่ทัน จำเลยใช้มีดทำร้ายนายกิมเชียงมีบาดแผล

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 300 วรรค 2 มีกำหนด 7 ปี

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยมีผิดฐานพยายามชิงทรัพย์ จึงพิพากษาแก้ ให้จำคุก 4 ปี 8 เดือน

โจทก์ฎีกาอ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 999/2485

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามสภาพของพืชผลต้องติดอยู่กับต้นหรือปลูกปักอยู่ในดิน การทำให้ผลไม้หลุดออกจากต้นเช่นสอยมะม่วงหรือตัดขนุนให้หล่นลงมา หรือขุดถอนมันหรือต้นหอมให้หลุดพ้นขึ้นจากพื้นดินโดยยังไม่ทันเอาไปด้วยนั้น ยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไปดังที่ท่านบัญญัติไว้ในกฎหมายอาญา มาตรา 288 คำพิพากษาฎีกาที่โจทก์อ้างข้อเท็จจริงต่างกับคดีนี้ จึงพิพากษายืน

Share