คำวินิจฉัยที่ 172/2561

แหล่งที่มา : สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ

ย่อสั้น

คดีที่โจทก์เป็นเอกชน ยื่นฟ้ององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๒ พนักงานสังกัดจำเลยที่ ๑ ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเช่าคลังสินค้าพร้อมดอกเบี้ย จากการที่จำเลยที่ ๑ ทำสัญญาเช่าคลังสินค้าของโจทก์เพื่อใช้เก็บรักษาข้าวสารที่สีแปรสภาพจากข้าวเปลือกปีการผลิต ๒๕๕๕/๕๖ ที่จำเลยที่ ๑ สั่งให้โรงสีส่งมอบ ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต ๒๕๕๕/๕๖ และสัญญาจ้างเหมาโจทก์ขนย้ายข้าวสารโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต ๒๕๕๕/๕๖ เก็บในคลังสินค้า โดยมีจำเลยที่ ๒ ในฐานะหัวหน้าคลังสินค้าในเขตพื้นที่รับผิดชอบนำข้าวสารเก็บในคลังสินค้าที่เช่า ซึ่งจำเลยที่ ๑ คงค้างชำระค่าเช่าบางส่วน เห็นว่า แม้จำเลยที่ ๑ เป็นหน่วยงานทางปกครอง แต่สัญญาเช่าคลังสินค้ามีวัตถุประสงค์เพียงกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่ส่งมอบคลังสินค้าพร้อมทั้งจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกในสภาพที่ดีเหมาะสมกับการเก็บรักษาข้าวสารให้แก่จำเลยที่ ๑ ผู้เช่า เข้าครอบครองเพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาข้าวสารที่สีแปรสภาพจากข้าวเปลือกที่จำเลยที่ ๑ สั่งให้โรงสีส่งมอบตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก กับกำหนดความรับผิดของโจทก์ในกรณีข้าวสารหรือกระสอบบรรจุข้าวสารเสื่อมคุณภาพเสียหายอันเกิดจากสถานที่เช่าไม่เหมาะสมกับการเก็บรักษาเท่านั้น โดยจำเลยที่ ๑ ทำสัญญาจ้างเหมาให้โจทก์ขนย้ายข้าวสารดังกล่าวเข้าเก็บในคลังสินค้าที่เช่า และมิได้ระบุให้โจทก์มีอำนาจเช่นเดียวกับจำเลยที่ ๒ ในการรับมอบ เก็บรักษา จ่ายข้าวสารจากคลังสินค้าตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของจำเลยที่ ๑ คงมีสิทธิเพียงแค่ได้รับเงินค่าเช่าและค่าจ้างขนย้ายเท่านั้น สัญญาทั้งสองฉบับดังกล่าวจึงไม่มีลักษณะเป็นการให้โจทก์เข้าร่วมจัดทำบริการสาธารณะ หรือเป็นสัญญาที่มีข้อกำหนดในสัญญาซึ่งมีลักษณะพิเศษที่แสดงถึงเอกสิทธิ์ของรัฐ ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินกิจการทางปกครองอันเป็นบริการสาธารณะบรรลุผลแต่อย่างใด และไม่มีลักษณะเป็นสัญญาสัมปทาน หรือจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภคหรือแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ อันจะถือเป็นสัญญาทางปกครองตามมาตรา ๓ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ จึงเป็นสัญญาทางแพ่งทั่วไปที่มีหน่วยงานทางปกครองเป็นคู่สัญญาเท่านั้น ข้อพิพาทในคดีนี้จึงมิใช่คดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ อันจะอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง แต่เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสัญญาทางแพ่งที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม

Share