แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องเป็นภรรยา ส. เจ้าของรวมกรรมสิทธิ์รวมรถยนต์กระบะของกลาง เมื่อ ส. ถึงแก่ความตาย ทรัพย์มรดกส่วนของ ส. ย่อมตกแก่ทายาทซึ่งรวมถึงผู้ร้องด้วย รถยนต์กระบะของกลางเก็บอยู่ที่บ้านผู้ร้องซึ่งพักอยู่กับพี่สาว กุญแจรถแขวนเก็บไว้ใต้หิ้งพระภายในบ้าน ญาติพี่น้องและบุตรของผู้ร้อง รวมทั้งจำเลยซึ่งเป็นบุตรเขยของผู้ร้องสามารถนำรถยนต์กระบะของกลางไปใช้ได้ จำเลยเคยนำไปใช้หลายครั้ง วันเกิดเหตุจำเลยเอากุญแจรถกระบะของกลางไปใช้กระทำความผิดโดยไม่ได้บอกกล่าวผู้ร้อง และผู้ร้องไม่ทราบว่าจำเลยนำรถยนต์กระบะของกลางไปใช้ในการกระทำความผิด แสดงว่าผู้ร้องยินยอมอนุญาตให้จำเลยหยิบเอากุญแจรถยนต์กระบะของกลางไปใช้ได้ตลอดเวลาที่จำเลยต้องการใช้ โดยไม่คำนึงว่าจำเลยจะนำรถไปใช้ในกิจการใด เมื่อจำเลยนำรถยนต์กระบะของกลางไปใช้บรรทุกถ่านไม้โกงกางโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ย่อมถือได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของจำเลยแล้ว ส่วนบุคคลอื่นซึ่งเป็นทายาทและเจ้าของรวมจะมีสิทธิร้องขอคืนรถยนต์กระบะของกลางหรือไม่ เพียงใด เป็นเรื่องที่จะต้องไปว่ากล่าวกันตามสิทธิของตนต่างหากจากคดีนี้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4, 29 ทวิ, 71 ทวิ, 74 และริบรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน น – 2663 กระบี่ ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า รถยนต์กระบะของกลางเป็นของนายสมหมายและผู้ร้อง ต่อมานายสมหมายถึงแก่ความตาย ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายสมหมาย ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย ขอให้คืนรถยนต์กระบะของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์ไม่ยื่นคำคัดค้าน และไม่มาศาลในวันนัดไต่สวนคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ร้องเป็นภรรยานายสมหมายเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมรถยนต์กระบะของกลาง เมื่อนายสมหมายถึงแก่ความตาย ทรัพย์มรดกส่วนของนายสมหมายย่อมตกทอดแก่ทายาทของนายสมหมายซึ่งรวมถึงผู้ร้องด้วย รถยนต์กระบะของกลางเก็บอยู่ที่บ้านผู้ร้องซึ่งพักอยู่กับพี่สาว 2 คน ส่วนกุญแจรถจะแขวนเก็บไว้ใต้หิ้งพระภายในบ้าน ญาติพี่น้องและบุตรทุกคนของผู้ร้อง รวมทั้งจำเลยซึ่งเป็นบุตรเขยของผู้ร้องสามารถนำรถยนต์กระบะของกลางไปใช้ได้ จำเลยเคยนำไปใช้หลายครั้ง วันเกิดเหตุจำเลยก็เอากุญแจรถซึ่งแขวนอยู่ใต้หิ้งพระไปขับนำรถยนต์กระบะของกลางไปใช้กระทำความผิดโดยไม่ได้บอกกล่าวผู้ร้องและผู้ร้องไม่ทราบว่าจำเลยนำรถยนต์กระบะของกลางไปใช้กระทำความผิดดังกล่าว แสดงว่าผู้ร้องยินยอมอนุญาตให้จำเลยหยิบกุญแจรถยนต์กระบะของกลางไปใช้ได้ตลอดเวลาที่จำเลยต้องการใช้ โดยไม่คำนึงว่าจำเลยจะนำรถไปใช้ในกิจการใด ข้อที่ผู้ร้องอ้างว่าหากรู้ว่าจำเลยนำรถไปใช้กระทำความผิดคงจะไม่ยินยอมให้นำรถไปนั้นขัดกับพฤติการณ์ของผู้ร้องดังที่ได้วินิจฉัยมา เมื่อจำเลยนำรถยนต์กระบะของกลางไปใช้บรรทุกถ่านไม้โกงกางโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายเช่นนี้ ย่อมถือได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิดของจำเลยแล้ว ส่วนบุคคลอื่นซึ่งอ้างว่าเป็นทายาทและเจ้าของรวมจะมีสิทธิร้องขอคืนรถยนต์กระบะของกลางหรือไม่ เพียงใด เป็นเรื่องที่จะต้องไปว่ากล่าวกันตามสิทธิของตนต่างหากจากคดีนี้
พิพากษายืน.