คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2325/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ป้ายที่ติดหรือตั้งไว้นอกที่สาธารณะ จะถือเป็นอาคารตามพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ข้อ 3(ข) ก็ต่อเมื่อครบองค์ประกอบ 2 ประการคือ เกี่ยวกับระยะห่างจากที่สาธารณะ และมีขนาดหรือมีน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ในขณะเกิดเหตุยังไม่มีกฎกระทรวงใช้บังคับ ป้ายที่จำเลยที่ 2 สร้างขึ้นบนอาคารของจำเลยที่ 1 ก็ไม่เป็นอาคารตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ โจทก์จึงไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้จำเลยที่ 2 ระงับการก่อสร้างและรื้อถอนรวมทั้งไม่มีอำนาจร้องขอต่อศาลให้บังคับให้มีการรื้อถอนป้ายดังกล่าว โจทก์ยังไม่มีอำนาจฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองให้รื้อป้ายโฆษณาที่ก่อสร้างโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หากจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติ ก็ให้โจทก์เป็นผู้รื้อถอนเอง ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา40, 42 โดยให้จำเลยทั้งสองเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย
จำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ไม่เคยได้รับหนังสือของโจทก์ที่แจ้งให้จำเลยที่ 1 ระงับการก่อสร้างป้ายโฆษณา จำเลยที่ 2 ก่อสร้างป้ายดังกล่าวถูกต้องตามแบบที่ขออนุญาต ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนป้ายโฆษณาที่ปลูกสร้างบนหลังคาของอาคารเลขที่ 340, 342 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร หากจำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติก็ให้โจทก์เป็นผู้รื้อถอนเองตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารพ.ศ. 2522 มาตรา 40, 42 โดยให้จำเลยทั้งสองเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย
โจทก์และจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนป้ายโฆษณาที่ปลูกสร้างบนหลังคาของอาคารเลขที่ 340, 342 ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาวินิจฉัยในข้อกฎหมายตามฎีกาของจำเลยทั้งสองที่ว่า ป้ายที่จำเลยที่ 2 สร้างขึ้นบนอาคารของจำเลยที่ 1 ไม่เป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522เจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่มีอำนาจตามกฎหมายดังกล่าวจะบังคับต่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องนั้น พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 4 ได้บัญญัตินิยามคำว่า “อาคารหมายความว่า ตึก บ้าน เรือน โรง ร้าน แพ คลังสินค้า สำนักงานและสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่นซึ่งบุคคลอาจเข้าอยู่หรือเข้าใช้สอยได้ และหมายความรวมถึง ฯลฯ (3) ป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้าย (ก) ที่ติดหรือตั้งไว้เหนือที่สาธารณะ และมีขนาดเกินหนึ่งตารางเมตร หรือมีน้ำหนักรวมทั้งโครงสร้างเกินสิบกิโลกรัม(ข) ที่ติดหรือตั้งไว้ในระยะห่างจากที่สาธารณะ ซึ่งเมื่อวัดในทางราบแล้วระยะห่างจากที่สาธารณะมีน้อยกว่าความสูงของป้ายนั้นเมื่อวัดจากพื้นดินและมีขนาดหรือมีน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดในกฎกระทรวง” ตามบทบัญญัติในมาตรา 4 ข้อ 3(ข) ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าป้ายที่ติดหรือตั้งไว้นอกที่สาธารณะ จะถือว่าเป็นอาคารก็ต่อเมื่อครบองค์ประกอบ 2 ประการ คือ เกี่ยวกับระยะห่างจากที่สาธารณะและมีขนาดหรือมีน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ปรากฏว่าในขณะเกิดเหตุคดีนี้ยังไม่มีกฎกระทรวงเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่งจะมีการออกกฎกระทรวงเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2533 ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 23 (พ.ศ. 2533) อันเป็นเวลาภายหลังเกิดเหตุคดีนี้แล้วซึ่งจะนำมาใช้บังคับกับคดีนี้มิได้ เมื่อขณะเกิดเหตุคดีนี้ยังไม่มีกฎกระทรวงกำหนดขนาดและน้ำหนักของป้ายที่ติดหรือตั้งไว้นอกที่สาธารณะดังกล่าว ป้ายที่จำเลยที่ 2 สร้างขึ้นบนอาคารของจำเลยที่ 1ก็ไม่เป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครย่อมไม่มีอำนาจตามมาตรา 40 และมาตรา42(เดิม) ที่จะสั่งให้จำเลยที่ 2 ระงับการก่อสร้างและรื้อถอนรวมทั้งไม่มีอำนาจร้องขอต่อศาลให้บังคับให้มีการรื้อถอนป้ายดังกล่าวโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยทั้งสอง ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยทั้งสองมิได้ยกขึ้นกล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ก็ย่อมมีสิทธิยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคสอง ฎีกาข้อนี้ของจำเลยทั้งสองฟังขึ้น ส่วนฎีกาข้ออื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share