แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินที่มีแต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3)และแบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) เท่านั้น เป็นกรณีไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ผู้ร้องใช้สิทธิทางศาลได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า เมื่อปี 2509 ผู้ร้องได้ทำสัญญาเข้าหุ้นส่วนเพื่อทำเหมืองแร่กับนายฮกบี้ จินตนะ และพวกรวม 7 คนโดยร่วมลงทุนซื้อที่ดินจากผู้มีชื่อหลายคนและได้นำที่ดินที่ซื้อนั้นไปประกอบเรื่องยื่นขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ที่ดินที่ซื้อเพื่อเปิดทำเหมืองแร่นั้น ประกอบด้วยที่ดินประเภทมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) 9 แปลง และที่ดินประเภทมีหนังสือแบบแจ้งการครอบครอง (ส.ค.1) 22 แปลง ที่ดินทั้งหมดนี้มีอาณาเขตติดต่อกัน ผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดตกลงให้นายฮกบี้เป็นผู้มีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ 8 แปลง เมื่อปี 2512 ผู้เป็นหุ้นส่วน3 คน ได้ถอนตัวออกจากการเป็นหุ้นส่วนต่อมาปี 2517 หุ้นส่วนที่เหลืออีก 4 คน ตกลงเลิกเป็นหุ้นส่วนและได้แบ่งทรัพย์สินกัน ผู้ร้องได้ซื้อที่ดินทั้งหมดจากผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นแล้วได้ครอบครองทำประโยชน์ตลอดมา ผู้ร้องได้ขอให้นายฮกบี้ไปโอนแก้ไขชื่อในเอกสารสิทธิให้เป็นชื่อของผู้ร้องนายฮกบี้ไม่ยอมไปโดยอ้างว่าเอกสารสิทธิทั้งหลายได้สูญหายแล้ว จนกระทั่งนายฮกบี้ถึงแก่กรรมนางอาเหลียนภริยาของนายฮกบี้ได้เป็นผู้จัดการมรดกของนายฮกบี้และได้ใส่ชื่อนางอาเหลียนในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายฮกบี้ ทั้งไม่ยินยอมไปโอนแก้ไขชื่อมาเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องได้ครอบครองทำประโยชน์โดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของโดยไม่มีผู้ใดรบกวนจนกระทั่งบัดนี้นานเกินกว่า 1 ปีแล้ว ผู้ร้องจึงได้สิทธิครอบครอง ขอให้มีคำสั่งแสดงว่าผู้ร้องได้สิทธิครอบครองที่ดินทั้ง 31 แปลง และสั่งเจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดินอำเภอท้ายเมือง จังหวัดพังงา ให้ทำนิติกรรมและแก้ทะเบียนชื่อผู้ถือครองที่ดินทั้ง 31 แปลง โดยใส่ชื่อผู้ร้องแทน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องอ้างว่าครอบครองที่ดินอยู่แล้วการที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่าผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินนั้นไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ผู้ร้องมาขอให้ศาลสั่งได้ กรณีมิใช่เรื่องที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 จึงไม่รับคำร้องขอ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาวินิจฉัยมีว่าผู้ร้องร้องขอให้ศาลมีคำสั่งว่าผู้ร้องมีสิทธิครอบครองที่ดินได้หรือไม่ เห็นว่ากรณีตามคำร้องขอเป็นการขอให้ศาลมีคำสั่งแสดงว่าผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดิน มิใช่เป็นการขอแสดงว่าผู้ร้องเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์เพราะที่ดินดังกล่าวยังเป็นที่ดินที่ไม่มีโฉนด คงมีแต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) และแบบแจ้งการครอบครอง(ส.ค.1) เท่านั้น เมื่อที่ดินที่ผู้ร้องอ้างว่าได้ครอบครองไม่มีโฉนดหรือยังไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ กรณีจึงไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ผู้ร้องใช้สิทธิทางศาลเสนอคดีไม่มีข้อพิพาทเพื่อให้ศาลแสดงว่าผู้ร้องมีสิทธิครอบครองในที่ดินนั้นได้…”
พิพากษายืน