แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การขอให้ศาลจำกัดและเพิกถอนสิทธิการจดทะเบียนสินค้าของผู้อื่น ซึ่งตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าว่าให้ยื่นคำร้องนั้นเป็นการขอให้ศาลสั่งซึ่งจะเป็นการกระทบกระเทือนสิทธิของคนอื่นที่มีอยู่ก่อนแล้วอันเป็นการตั้งข้อพิพาทว่า ผู้ร้องมีสิทธิดีกว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิกันในทางแพ่ง จึงต้องเริ่มคดีโดยทำเป็นคำฟ้องมายื่น ไม่ใช่คำร้องขอ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่24/2503)
ย่อยาว
คดีนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เป็นเจ้าของโรงงานทำเครื่องกระป๋องผักกาดดอง ใช้เครื่องหมายการค้าตราแมลงปอมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี แต่ยังมิได้จดทะเบียนสิทธิเครื่องหมายการค้าตามกฎหมาย ต่อมาผู้ร้องได้ไปยื่นเรื่องราวขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตราแมลงปอต่อนายทะเบียน แต่ปรากฏว่าเครื่องหมายการค้าตราแมลงปอนี้ห้างหุ้นส่วนจำกัดกวงเฮงเส็งได้จดทะเบียนไว้ก่อนแล้ว ตามพฤติการณ์ห้างหุ้นส่วนจำกัดกวงเฮงเส็งมิได้ตั้งใจโดยสุจริตที่จะใช้เครื่องหมายการค้าตราแมลงปอ ทำให้ผู้ร้องไม่อยู่ในฐานะที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าซึ่งผู้ร้องได้ผลิตออกจำหน่ายก่อนห้างหุ้นส่วนจำกัดกวงเฮงเส็งได้ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายจึงขอให้ศาลมีคำสั่งให้จำกัดสิทธิแห่งการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตราแมลงปอ และให้เพิกถอนการจดทะเบียนสินค้าที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดกวงเฮงเส็งมิได้ผลิตออกจำหน่าย ซึ่งผู้ร้องจะได้ขอจดทะเบียนต่อไป
ศาลแพ่งสั่งคำร้องว่า “ตามคำร้องนี้มีคำขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นอยู่ด้วย เป็นคดีมีข้อพิพาทให้ทำเป็นฟ้องมายื่นใหม่ แต่เมื่อผู้ร้องยังคงยืนยันตามคำร้องนี้จึงให้ยกคำร้องของผู้ร้องเสีย”
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อพิจารณาถ้อยคำตามคำร้องของผู้ร้องแล้วจะเห็นได้ว่าผู้ร้องประสงค์จะไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตราแมลงปอของผู้ร้อง แต่ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดกวงเฮงเส็งได้ไปขอจดทะเบียนไว้ก่อนผู้ร้องนานแล้ว ทั้งประกอบการค้าอย่างเดียวกันกับผู้ร้องผู้ร้องจึงมาขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการจดทะเบียน และสั่งจำกัดสิทธิแห่งการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าซึ่งได้มีอยู่ก่อนแล้ว ผู้ร้องยังได้อ้างอีกด้วยว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดกวงเฮงเส็งมิได้ตั้งใจโดยสุจริตที่จะใช้เครื่องหมายการค้าตามที่ได้จดทะเบียนไว้ จึงเห็นได้ว่าเป็นการขอให้ศาลสั่งซึ่งจะเป็นการกระทบกระเทือนสิทธิของห้างหุ้นส่วนจำกัดกวงเฮงเส็งอันมีอยู่ก่อนแล้วเป็นการตั้งข้อพิพาทว่า ผู้ร้องมีสิทธิดีกว่า ฉะนั้น การที่ผู้ร้องจะขอดำเนินคดีของตนโดยมิให้โอกาสห้างหุ้นส่วนจำกัดกวงเฮงเส็งต่อสู้คัดค้านป้องกันสิทธิ จึงเป็นการมิชอบ จริงอยู่แม้จะมีข้อความปรากฏตามมาตรา 41 และ 42 แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 กล่าวไว้ว่า การดำเนินคดีในเรื่องเช่นนี้ให้ยื่นเป็นคำร้องก็ดี แต่ก็เป็นกฎหมายส่วนสารบัญญัติการฟ้องร้องต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายวิธีสบัญญัติ คือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง อันเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ ซึ่งได้กล่าวถึงคดีมาสู่ศาลมีอยู่ 2 อย่าง คือคดีข้อพิพาทกับ คดีไม่มีข้อพิพาท คดีของผู้ร้องเป็นการขอให้ศาลจำกัดและเพิกถอนสิทธิการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของห้างหุ้นส่วนกวงเฮงเส็งบางประการ โดยหาว่าห้างหุ้นส่วนกวงเฮงเส็งเอาตราแมลงปอซึ่งผู้ร้องใช้มาก่อนนานแล้วไปจดทะเบียนทำให้ผู้ร้องไม่สามารถจดทะเบียนตราแมลงปอเป็นเครื่องหมายการค้าของผู้ร้องได้ลักษณะของเรื่องจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิกันในทางแพ่ง อันเป็นการตั้งข้อพิพาทกับห้างหุ้นส่วนดังกล่าวแล้ว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นคดีมีข้อพิพาท จึงต้องเริ่มคดีโดยทำเป็นคำฟ้องมายื่น ยิ่งกว่านั้น ผู้ร้องยังขอให้จำกัดสิทธิการจดทะเบียนของห้างหุ้นส่วนกวงเฮงเส็งและให้เพิกถอนการจดทะเบียนสินค้าบางชนิด ถ้าห้างหุ้นส่วนกวงเฮงเส็งไม่ได้เข้ามาเป็นจำเลยแล้ว จะบังคับตามผู้ร้องขออย่างไรได้ ส่วนข้อที่ผู้ร้องโต้เถียงมาว่าตามกฎหมายก็ใช้คำว่า “คำสั่ง” มิใช่คำพิพากษานั้น ก็เป็นไปนัยเดียวกับการฟ้องซึ่งได้วินิจฉัยมาแล้ว ด้วยเหตุดังกล่าวศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่จึงเห็นว่า ในคดีเรื่องนี้ต้องเสนอคดีโดยทำเป็นคำฟ้องมายื่น
พิพากษายืน