คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2312/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยคัดค้านการที่โจทก์ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของหนองน้ำสาธารณะซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านจำเลยใช้ประโยชน์ร่วมกัน ดังนี้ หากเป็นดังจำเลยต่อสู้ จำเลยย่อมมีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่พิพาทได้ จำเลยจึงมีสิทธิคัดค้านการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ดังกล่าว ตลอดจนต่อสู้คดีกับโจทก์ในชั้นศาลได้ และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304(2) สาธารณสมบัติของแผ่นดินได้แก่ทรัพย์สินของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเป็นต้นว่า ที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ฯลฯ มิได้มีบทบัญญัติว่าต้องมีหลักฐานทางทะเบียนของทางราชการ เพื่อแสดงว่าเป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน การที่จะวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือหนองน้ำสาธารณะจึงอาศัยเหตุแห่งเพียงว่า หนองน้ำดังกล่าวไม่มีหลักฐานทางทะเบียนหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ยื่นคำขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินของโจทก์ จำเลยไปคัดค้านว่าที่ดินบางส่วนเป็นหนองน้ำกินของหมู่บ้าน เป็นเหตุให้ทางอำเภอไม่ยอมจดทะเบียนให้ จึงขอให้บังคับจำเลยถอนคำคัดค้านและห้ามเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่า ที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของหนองน้ำสาธารณะ โจทก์ไม่มีอำนาจยึดถือครอบครองเพื่อตน
สืบพยานโจทก์ได้ ๑ ปาก ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยรับว่าหนองน้ำสาธารณะที่จำเลยอ้างไม่มีหลักฐานทางทะเบียน ข้อเท็จจริงจึงเลื่อนลอยประกอบกับจำเลยไม่ใช่ผู้เสียหายพิเศษที่จะอ้างสิทธิขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ให้จำเลยถอนคำคัดค้านและห้ามเกี่ยวข้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยมิใช่ผู้เสียหายตามกฎหมายจึงไม่มีสิทธิคัดค้านการที่โจทก์ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ สำหรับที่พิพาท และไม่อาจต่อสู้คดีในชั้นศาลได้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยคัดค้านการที่โจทก์ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ โดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของหนองน้ำสาธารณะ ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านจำเลยใช้ประโยชน์ร่วมกัน ดังนี้ หากเป็นดังจำเลยต่อสู้จำเลยย่อมมีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่พิพาทได้ จำเลยจึงมีสิทธิคัดค้านการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ดังกล่าว ตลอดจนต่อสู้คดีกับโจทก์ในชั้นศาลได้ ส่วนที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์โดยอาศัยเหตุแต่เพียงว่า หนองน้ำดังกล่าวไม่มีหลักฐานทางทะเบียนนั้น เห็นว่าสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๐๔(๒) ได้แก่ทรัพย์สินของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันเป็นต้นว่า ที่ชายตลิ่ง ทางน้ำ ฯลฯ มิได้มีบทบัญญัติว่าต้องมีหลักฐานทางทะเบียนของทางราชการ เพื่อแสดงว่าเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ดังนั้น การที่จะวินิจฉัยว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์หรือเป็นหนองน้ำสาธารณะ จึงอาศัยเหตุแต่เพียงว่าหนองน้ำดังกล่าวไม่มีหลักฐานทางทะเบียนหาได้ไม่จำต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป
พิพากษายืน

Share