คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2307/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ค่าเสียหายที่โจทก์อ้างว่าต้องทนทุกขเวทนาแสนสาหัส ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจนอนไม่หลับ เพราะหนวกหู ฝุ่นละอองจากการก่อสร้างทำให้บ้านเรือนสกปรก บ้านสั่นสะเทือนหินและไม้ตกลงบนหลังคาบ้านโจทก์เกรงจะเกิดอันตรายต่อโจทก์และบริวารนั้น เป็นเรื่องเสียหายต่ออนามัยและสิทธิจะอยู่อย่างสงบไม่ถูกรบกวน เพราะความทรมานนอนไม่หลับอันเนื่องจากฝุ่นละอองเสียงจากการก่อสร้างอันได้แก่การตอกเสาเข็มและความหวาดระแวงอันเกิดจากสิ่งของตกหล่นลงมาบนหลังคาอันอาจเกิดอันตรายแก่อาคารและผู้อยู่อาศัย รวมทั้งการอัดตัวของดินทำให้บ้านเรือนโจทก์เสียหายอันอาจเป็นอันตรายแก่ผู้อยู่อาศัย เหตุการณ์เช่นนี้เกิดอยู่เป็นเวลาประมาณ 2 เดือน ตามพฤติการณ์ทำให้โจทก์เสียหายแก่อนามัยรวมทั้งสิทธิส่วนตัวที่จะมีความเป็นอยู่อย่างสงบสุขทั้งร่างกายและจิตใจ โจทก์จึงสมควรได้รับชดใช้ค่าเสียหายในความเสียหายนี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณเดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม ๒๕๒๘ จำเลยที่ ๑โดยจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ได้ว่าจ้างจำเลยที่ ๔ โดยจำเลยที่ ๕ หุ้นส่วนผู้จัดการให้ทำการตอกเสาเข็มปลูกสร้างอาคารโรงแรม ๑๖ ชั้น และร่วมกันดำเนินการตอกเสาเข็มอัดแรงขนาดใหญ่ประมาณ ๖๐๐ ต้นดังกล่าวโดยใช้ปั้นจั่นขนาดใหญ่ โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้เกิดความสั่นสะเทือน และมีการอัดไหลของดินด้านล่าง ทำให้บ้านของโจทก์ทรุดเสียหายแตกร้าวทั่วไปต้องรื้อทำใหม่ ประเมินราคาค่าซ่อมเป็นเงิน ๕๐๖,๗๓๖ บาท ค่าขนย้ายสิ่งของไปอยูที่อื่นในขณะทำการซ่อมแซมบ้านใหม่เป็นเงิน๑๐,๐๐๐ บาท ค่าเช่าโรงแรมเพื่อพักอาศัยในขณะทำการซ่อมแซมบ้านเป็นเวลา ๒ เดือน ค่าเช่าวันละ๒,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๑๒๐,๐๐๐ บาท นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่อนามัยร่างกายและสภาพจิตของโจทก์และบริวาร คิดค่าเสียหายเป็นเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท รวมค่าเสียหายทั้งสิ้น ๙๓๖,๗๓๖ บาท ขอให้บังคับให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันและแทนกันชำระค่าเสียหายจำนวน๙๓๖,๗๓๖ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของค่าเสียหายดังกล่าว นับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ ได้จ้างเหมาให้จำเลยที่ ๔ ทำการก่อสร้างโรงแรมส่วนต่อเติม ๑๖ ชั้น และใต้ดิน ๑ ชั้น จำเลยที่ ๑ และที่ ๔ไม่เคยทำการก่อสร้างเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายหรือเป็นผู้สั่งการ จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ทำสัญญาแทนจำเลยที่ ๑ ในฐานะเป็นกรรมการของจำเลยที่ ๑ จึงไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว ค่าเสียหายที่โจทก์ฟ้องไม่เป็นความจริง หากเสียหายจริง ค่าซ่อมก็ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท การซ่อมแซมบ้านโจทก์ไม่จำต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น ถ้าจะย้ายค่าขนย้ายก็ไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท ทั้งถ้าจะไปพักอาศัยที่อื่นก็ไม่จำต้องไปเช่าโรงแรม ซึ่งโจทก์สามารถเช่าบ้านอย่างดีอยู่ อัตราค่าเช่าเดือนละ ๕,๐๐๐ บาท ๒ เดือนค่าเช่าไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท โจทก์ไม่ได้รับทุกขเวทนาแต่อย่างใด หากจะเสียค่าเสียหายก็ไม่เกิน๓๐๐ บาท ขอให้พิพากษายกฟ้อง
จำเลยที่ ๔ และที่ ๕ ให้การว่า จำเลยที่ ๑ ได้จ้างเหมาให้จำเลยที่ ๔ และที่ ๕ ทำการก่อสร้างโรงแรม ในการก่อสร้าง จำเลยที่ ๕ ไม่ได้ตอกเสาเข็มอัดแรงขนาดใหญ่จำนวน ๖๐๐ ต้น ลงในที่ดินที่ทำการก่อสร้างด้วยตนเอง จำเลยที่ ๔ และที่ ๕ จึงไม่ต้องรับผิดทั้งในการก่อสร้างจำเลยที่ ๔ และที่ ๕ ได้ใช้ความระมัดระวังเพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และป้องกันการอัดไหลของที่ดินทุกด้าน ความเสียหายจึงเกิดแก่บ้านโจทก์เองโดยธรรมชาติค่าเสียหายของรั้ว กระเบื้องปูทางเดินในบ้านและเทอเรซไม่เกิน ๓,๐๐๐ บาท โจทก์ไม่จำเป็นต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นในระหว่างซ่อมแซมเพราะเสียหายเพียงเล็กน้อย หากจะย้ายไปค่าขนย้ายจะไม่เกิน๑,๐๐๐ บาท และไม่จำเป็นต้องไปเช่าโรงแรม สามารถเช่าบ้านอย่างดีอยู่ได้ในอัตราค่าเช่าเดือนละ ๒,๐๐๐ บาท สองเดือน ค่าเสียหายไม่เกิน ๔,๐๐๐ บาท โจทก์ไม่ได้รับทุกขเวทนาหากจะเรียกค่าเสียหายก็ไม่ควรเกิน ๓๐๐ บาท ขอให้พิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๔ และที่ ๕ ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ ๒ และที่ ๓
โจทก์ จำเลยที่ ๑ ที่ ๔ และที่ ๕ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๔ และที่ ๕ ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน ๕๘๐,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงิน๕๘๐,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
โจทก์ จำเลยที่ ๑ ที่ ๔ และที่ ๕ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ค่าเสียหายเพราะโจทก์ทนทุกขเวทนาแสนสาหัส ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจนอนไม่หลับเพราะหนวกหู ฝุ่นละอองจากการก่อสร้างทำให้บ้านเรือนสกปรกบ้านสั่นสะเทือน หินและไม้ตกลงบนหลังคาบ้านโจทก์เกรงจะเกิดอันตรายต่อโจทก์และบริวารนั้น เห็นว่าไม่ปรากฏว่าความทนทุกขทรมานสาหัสดังที่โจทก์อ้างนั้นเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือจิตใจของโจทก์แต่เห็นว่าค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องมานี้เป็นเรื่องเสียหายต่ออนามัยและสิทธิจะอยู่อย่างสงบไม่ถูกรบกวนเพราะความทรมานนอนไม่หลับอันเนื่องจากฝุ่นละออง เสียงจากการก่อสร้างอันได้แก่การตอกเสาเข็ม และความหวาดระแวงอันเกิดจากสิ่งของตกหล่นลงมาบนหลังคาอันอาจเกิดอันตรายแก่อาคารและผู้อยู่อาศัยในบ้านดังที่มีไม้ตกทะลุหลังคาลงมาจนจำเลยต้องชดใช้ค่าซ่อมหลังคาให้แก่โจทก์ รวมทั้งการอัดตัวของดินทำให้บ้านเรือนโจทก์เสียหายอันอาจเป็นอันตรายแก่ผู้อยู่อาศัย เหตุการณ์เช่นนี้เกิดอยู่ตลอดเวลานับแต่ปลายเดือนเมษายน ๒๕๒๘ ถึงต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๒๘ เป็นเวลาประมาณ ๒ เดือนตามพฤติการณ์เชื่อได้ว่า ทำให้โจทก์เสียหายแก่อนามัยรวมทั้งสิทธิส่วนตัวที่จะมีความเป็นอยู่อย่างสงบสุขทั้งร่างกายและจิตใจ โจทก์จึงสมควรได้รับชดใช้ค่าเสียหายในความเสียหายนี้ เมื่อคำนึงถึงการก่อสร้างของจำเลยซึ่งอาจจะกระทำได้โดยการตอกเสาเข็มด้วยวิธีอื่นเป็นการเจาะซึ่งจะไม่เสียหายและรบกวนสิทธิของผู้อื่นเกินขนาด แต่จำเลยก็มิได้นำพา แม้ในคดีที่บิดาโจทก์ฟ้องจำเลยและศาลมีคำสั่งห้ามจำเลยตอกเสาเข็มโดยวิธีตอกแล้ว จำเลยก็ยังขืนตอกเสาเข็มไปจนเสร็จ แสดงให้เห็นว่าฝ่ายจำเลยมิได้เคารพในสิทธิของผู้อื่น เห็นสมควรกำหนดค่าเสียหายในส่วนนี้เป็นเงิน ๗๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงินค่าเสียหายทั้งสิ้น ๕๓๐,๐๐๐ บาท
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๑ ที่ ๔ และที่ ๕ ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน๕๓๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share