คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2301/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 86 วรรคท้าย ในกรณีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลจะสั่งให้นำพยานหลักฐานอื่นอันเกี่ยวกับประเด็นในคดีมาสืบเพิ่มเติมก็ได้ และแม้คู่ความจะมิได้ระบุพยานเพิ่มเติมศาลก็สามารถรับฟังพยานหลักฐานที่มีการสืบเพิ่มเติมนั้นได้เช่นกันตาม ป.วิ.พ.มาตรา 87 (2) การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ทำแผนที่วิวาท แม้จำเลยทั้งสองจะมิได้ลงชื่อรับรอง แต่จำเลยทั้งสองก็มิได้โต้แย้งว่าแผนที่วิวาทดังกล่าวไม่ถูกต้องอย่างไร ศาลชั้นต้นจึงรับฟังแผนที่วิวาทซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินทำขึ้นดังกล่าวประกอบพยานหลักฐานอื่นได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนบ้านตึกแถวในส่วนที่รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ และให้จำเลยทั้งสองพร้อมบริวารขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากที่ดินของโจทก์โดยปรับพื้นที่ดินให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ห้ามจำเลยทั้งสองพร้อมบริวารเข้าไปในที่ดินของโจทก์ และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ ๑๕,๐๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะรื้อถอนบ้านและออกจากที่ดินของโจทก์
จำเลยทั้งสองให้การทำนองเดียวกันว่า จำเลยทั้งสองไม่ได้ร่วมกันปลูกสร้างต่อเติมดัดแปลงตึกแถวรุกล้ำที่ดินของโจทก์ และไม่ได้ก่อสร้างพื้นคอนกรีตบนที่ดินของโจทก์ ที่ดินส่วนที่โจทก์อ้างว่าจำเลยก่อสร้างรุกล้ำเป็นที่ดินสาธารณะไม่ใช่ที่ดินของโจทก์ จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ โจทก์เรียกค่าเสียหายสูงเกินความเป็นจริง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนแผ่นป้ายโฆษณาในส่วนที่รุกล้ำที่ดินของโจทก์ประมาณ ๑.๒ ถึง ๑.๕ เมตร ออกไป ห้ามจำเลยทั้งสองพร้อมบริวารเข้าไปเกี่ยวข้องในที่ดินของโจทก์ พร้อมทั้งชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ ๑,๕๐๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะรื้อถอนแผ่นป้ายส่วนที่รุกล้ำออกจากที่ดินของโจทก์ ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๓,๐๐๐ บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า … คงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่า ศาลชั้นต้นจะรับฟังแผนที่วิวาทซึ่งจำเลยทั้งสองไม่ได้ลงชื่อรับรองและโจทก์ไม่ได้ระบุพยานเพิ่มเติมประกอบพยานหลักฐานอื่นรวมทั้งข้อเท็จจริงจากการเดินเผชิญสืบได้หรือไม่ เห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ทำแผนที่วิวาทนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๖ วรรคท้าย ซึ่งบทมาตราดังกล่าวนี้ ศาลสามารถสั่งได้เองโดยไม่ต้องมีฝ่ายใดร้องขอ หรือจะสั่งตามที่คู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร้องขอก็ได้ เมื่อศาลอนุญาตแล้ว แม้คู่ความจะมิได้ระบุพยานเพิ่มเติมศาลก็สามารถรับฟังพยานหลักฐานที่มีการสืบเพิ่มเติมนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๘๗ (๒) ส่วนพยานหลักฐานนั้นจะมีน้ำหนักรับฟังได้เพียงใดเป็นเรื่องของการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานสำหรับแผนที่วิวาทนั้นแม้จำเลยทั้งสองจะมิได้ลงชื่อรับรอง แต่จำเลยทั้งสองก็มิได้โต้แย้งว่าแผนที่วิวาทดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือไม่ตรงกับโฉนดที่ดินของโจทก์และจำเลยที่ ๒ ทั้งสามแปลงอย่างไร ศาลชั้นต้นจึงรับฟังแผนที่วิวาทซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินทำขึ้นดังกล่าวประกอบพยานหลักฐานอื่นรวมทั้งข้อเท็จจริงจากการเดินเผชิญสืบได้ และศาลชั้นต้นก็ได้วินิจฉัยโดยอาศัยการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานของโจทก์และจำเลยทั้งสองประกอบกับข้อเท็จจริงที่ได้จากการเดินเผชิญสืบและแผนที่วิวาทแล้วฟังว่าจำเลยทั้งสองสร้างแผ่นป้ายโฆษณารุกล้ำที่ดินพิพาทของโจทก์ มิใช่ฟังจากการเดินเผชิญสืบหรือแผนที่วิวาทเท่านั้น คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงชอบแล้ว ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

นายตุล เมฆยงค์ ผู้ช่วยฯ
นางสาวสุดรัก สุขสว่าง ย่อ
นายไพโรจน์ โรจน์อภิรักษ์กุล ตรวจ
นายชินวิทย์ จินดา แต้มแก้ว ผู้ช่วยฯ/ตรวจ

Share