แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้ปืนลูกซองยาวยิงจากเรือลำหนึ่งไปยังเรือผู้เสียหายกับพวกซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 1 เส้น ถือได้ว่าจำเลยกระทำโดยเจตนา (ฆ่า)แต่ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บไม่ถึงตาย การกระทำของจำเลยจึงไม่บรรลุผลจำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า
ในกรณีเหตุเกิดในท้องทะเล เมื่อไม่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นในเขตท้องที่ใดแน่พนักงานสอบสวนท้องที่ที่ผู้เสียหายมาแจ้งย่อมมีอำนาจทำการสอบสวนได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 19(1) และศาลที่ท้องที่สอบสวนนั้นอยู่ในเขตอำนาจ มีอำนาจพิจารณาคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22(1)(2)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ปืนลูกซองยาวยิงเข้าไปในเรือยนต์ ช.สินสยาม 2 หลายนัด กระสุนถูกนายบัว ทั้งนี้โดยจำเลยมีเจตนาฆ่านายบัวกับพวกอีก 16 คนซึ่งอยู่ในเรือ เหตุเกิดในเรือยนต์ประมงไทย (ชื่อ ช.สินสยาม 2) ในทะเลหลวงบริเวณอ่าวไทย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุกจำเลย 10 ปี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยใช้ปืนยิงไปที่เรืออีกลำหนึ่ง 6-7 นัด ในระยะที่เรือ 2 ลำห่างกันเพียง 1 เส้น จำเลยย่อมเล็งเห็นผลแห่งการกระทำของจำเลย จึงถือได้ว่าจำเลยกระทำโดยเจตนา (ฆ่า) แต่เนื่องจากการกระทำของจำเลยไม่บรรลุผล เพราะนายบัวเพียงแต่ได้รับอันตรายแก่กาย จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า
ที่จำเลยฎีกาว่าที่เกิดเหตุได้ความตามทางพิจารณาแตกต่างกับฟ้องนั้น ได้ความว่าเหตุเกิดในท้องทะเล ไม่แน่ชัดว่าการกระทำผิดเกิดขึ้นในท้องที่ใดแน่ เมื่อผู้เสียหายมาแจ้งความพนักงานสอบสวน อำเภอเมืองสมุทรปราการ พนักงานสอบสวนอำเภอเมืองสมุทรปราการจึงมีอำนาจทำการสอบสวนได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 19(1) และศาลจังหวัดสมุทรปราการจึงมีอำนาจทำการพิจารณาพิพากษาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22(1) (2)
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 จำคุกจำเลย 10 ปี จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวน ลดโทษให้หนึ่งในสามตามมาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 6 ปี8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์