คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2294/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 1 วางเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาและค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนโจทก์ เพราะวางเมื่อพ้นกำหนดฎีกา เป็นคำสั่งเกี่ยวกับการขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 หาใช่การสั่งเกี่ยวกับการรับหรือไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไม่ หากจำเลยที่ 1 ประสงค์จะคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว ก็ชอบที่จะอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ไปตามลำดับชั้นศาล ไม่มีบทกฎหมายใดให้อำนาจจำเลยที่ 1ฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวโดยตรงต่อศาลฎีกาได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองผิดสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ต่อโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนให้แก่โจทก์ในสภาพที่เรียบร้อยใช้การได้ดี หากไม่สามารถส่งมอบคืนได้ให้ชดใช้ราคา และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายพร้อมด้วยดอกเบี้ยและชดใช้ค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 10,000 บาทนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนหรือชดใช้ราคาครบถ้วนแก่โจทก์ จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบรถยนต์คันที่เช่าซื้อคืนโจทก์ในสภาพเรียบร้อย หากส่งมอบคืนไม่ได้ให้ร่วมกันใช้ราคารถยนต์แก่โจทก์แทนและให้ร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์อีก 40,000 บาท โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายจำนวน60,000 บาท และชดใช้ค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 5,000 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนหรือชดใช้ราคาแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมมีกำหนด 10 วัน โดยอ้างเหตุว่ายังไม่พร้อมเรื่องการวางเงินค่าขึ้นศาล โดยยื่นในวันที่ 4 มกราคม 2536 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะยื่นฎีกาได้ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องของจำเลยที่ 1 ว่า จำเลยที่ 1 อ้างเหตุเพียงว่า ยังไม่พร้อมเรื่องการวางเงินค่าขึ้นศาล โดยไม่ปรากฏเหตุผลที่สมควรแต่อย่างใดเลย จึงไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาตามที่ขอ และสั่งฎีกาว่า จะพิจารณาสั่งเมื่อจำเลยที่ 1 นำเงินค่าธรรมเนียมศาลมาวางครบถ้วนและภายในกำหนดแล้ว โดยสั่งในวันที่7 มกราคม 2536 และจำเลยที่ 1 ได้ลงชื่อให้มาทราบคำสั่งศาลในวันที่ 11 มกราคม 2536 ต่อมาวันที่ 13 มกราคม 2536 จำเลยที่ 1นำเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาและเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนโจทก์มาวางศาล
ศาลชั้นต้นสั่งในคำแถลงขอวางเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาและค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนโจทก์ว่า จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในวันที่ 4 มกราคม 2536 อันเป็นวันสุดท้ายที่จะยื่นฎีกาได้ ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2536 และนัดให้จำเลยที่ 1มาฟังคำสั่งในวันที่ 11 มกราคม 2536 ถ้าไม่มาให้ถือว่าทราบคำสั่งแล้ว กรณีจึงต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ทราบคำสั่งไม่อนุญาตในวันที่11 มกราคม 2536 และจะต้องนำค่าธรรมเนียมทั้งหมดมาวางศาลในวันเดียวกันนั้น แต่ปรากฏว่าเพิ่งมาวางในวันนี้ซึ่งพ้นกำหนดฎีกาไปแล้ว จึงไม่อนุญาต
จำเลยที่ 1 ฎีกาคำสั่งของศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยที่ 1 วางเงินค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาและค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แทนโจทก์ เพราะวางเมื่อพ้นกำหนดฎีกา เป็นคำสั่งเกี่ยวกับการขอขยายระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 หาใช่การสั่งเกี่ยวกับการรับหรือไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไม่ หากจำเลยที่ 1 ประสงค์จะคัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว ก็ชอบที่จะอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ไปตามลำดับชั้นศาล ไม่มีบทกฎหมายใดให้อำนาจจำเลยที่ 1 ฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นโดยตรงต่อศาลฎีกาได้ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยที่ 1
พิพากษายกฎีกาจำเลยที่ 1

Share