แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่ผู้ร้องแจ้งการประเมินเพื่อเรียกเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้คัดค้านเพื่อให้ชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินของลูกหนี้ซึ่งเป็นเวลาภายหลังจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดลูกหนี้แล้วเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 เพื่อให้ผู้คัดค้านซึ่งมีอำนาจจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ชำระภาษีดังกล่าวหรือหากเห็นว่าการประเมินไม่ถูกต้องผู้คัดค้านก็อุทธรณ์โต้แย้งการประเมินต่อผู้ร้องได้ตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินพ.ศ. 2475 ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผู้ร้องขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายการที่ผู้คัดค้านมีหนังสือตอบผู้ร้องว่าผู้คัดค้านไม่อาจยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษี เป็นการแจ้งความคิดเห็นของผู้คัดค้านไปยังผู้ร้องเท่านั้น ไม่ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 146 สิทธิของผู้ร้องในการที่จะบังคับชำระค่าภาษีมิได้เปลี่ยนแปลงไปตามความเห็นของผู้คัดค้าน ผู้ร้องไม่อาจร้องคัดค้านเป็นคดีนี้ได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีล้มละลายศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ผู้คัดค้านได้นำอู่ลอยสำหรับซ่อมเรือของจำเลยที่ 1ไปให้เช่า ในอัตราค่าเช่าปีละ 3,600,000 บาท แต่จำเลยที่ 1มิได้ชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินประจำปี 2527 ถึงปี 2532 ให้แก่ผู้ร้อง ผู้ร้องได้แจ้งการประเมินไปยังผู้คัดค้านแล้ว แต่ผู้คัดค้านมิได้ชำระภายใน 90 วัน และมิได้อุทธรณ์โต้แย้งการประเมินนั้นจำเลยที่ 1 ต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มด้วย ขอให้บังคับผู้คัดค้านเอาเงินของจำเลยที่ 1 มาชำระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินพร้อมทั้งเงินเพิ่มเป็นเงิน 3,111,428.54 บาท ให้แก่ผู้ร้องแทนจำเลยที่ 1
ผู้คัดค้านยื่นคำแถลงคัดค้านว่า หนี้ค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินพร้อมทั้งเงินเพิ่มที่ผู้ร้องประเมินและแจ้งให้ผู้คัดค้านชำระแทนจำเลยที่ 1 เป็นค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน ประจำปี 2527 ถึงปี 2532ซึ่งเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นภายหลังวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 แล้ว ย่อมเป็นหนี้ที่ไม่อาจนำมาขอรับชำระจากกองทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ผู้ร้องคำนวณค่ารายปีและค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินไม่ชอบด้วยกฎหมายสูงกว่าความเป็นจริง ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านนำเงินจากกองทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ชำระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินจำนวน 1,071,250 บาทให้แก่ผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ผู้คัดค้านนำเงินจากกองทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 ชำระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินกับเงินเพิ่มรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,111,428.54 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่คู่ความนำสืบรับกันฟังได้ว่า โจทก์ได้ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีล้มละลายต่อศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 เด็ดขาด เมื่อวันที่28 ธันวาคม 2525 ต่อมาเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2526 ผู้คัดค้านได้ให้บริษัทเอเซียลิสโฮลด์ จำกัด เช่าอู่ลอยสำหรับซ่อมเรือพร้อมอุปกรณ์ของจำเลยที่ 1 เดือนละ 300,000 บาท ตามสัญญาเช่าเอกสารหมาย ค.1 ผู้ร้องได้ประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินจากค่ารายปีของจำเลยที่ 1 ประจำปี 2527 ถึงปี 2532 ซึ่งเป็นเวลาที่ผู้คัดค้านเข้าไปควบคุมและจัดการทรัพย์สินของจำเลยที่ 1รวมเป็นภาษีเงินเพิ่มทั้งสิ้น 3,111,428.54 บาท ตามเอกสารหมาย ร.1ถึง ร.6 วันที่ 30 มิถุนายน 2532 ผู้ร้องได้แจ้งการประเมินภาษีไปยังผู้คัดค้านตามเอกสารหมาย ร.7 ถึง ร.10 ผู้คัดค้านไม่ได้อุทธรณ์การประเมินภาษีดังกล่าวและไม่ได้ชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินภายในกำหนดเวลา 90 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด ผู้ร้องมีหนังสือเตือนให้ผู้คัดค้านชำระหนี้ค่าภาษี ตามเอกสารหมาย ร.11 ถึง ร.15ผู้คัดค้านรับหนังสือเตือนแล้ว ได้มีหนังสือแจ้งมายังผู้ร้องว่าผู้คัดค้านขายอู่ลอยสำหรับซ่อมเรือไปตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2531ส่วนหนี้ค่าภาษีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น เป็นภาษีที่เกิดขึ้นภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 1 เด็ดขาดแล้วผู้คัดค้านจึงไม่อาจยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีได้ตามเอกสารหมาย ร.16ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องคัดค้านภายใน 14 วันนับแต่วันทราบคำวินิจฉัยของผู้คัดค้านดังกล่าว
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การที่ผู้ร้องได้แจ้งการประเมินเพื่อเรียกเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินไปยังผู้คัดค้านเพื่อให้ชำระภาษีโรงเรือนและที่ดินประจำปี 2527 ถึงปี 2532 ของลูกหนี้เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475มาตรา 24 เพื่อให้ผู้คัดค้านซึ่งมีอำนาจจัดการทรัพย์สินของลูกหนี้ชำระภาษีดังกล่าว หรือหากเห็นว่าการประเมินไม่ถูกต้องผู้คัดค้านก็อุทธรณ์โต้แย้งการประเมินต่อผู้ร้องได้ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ผู้ร้องขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย การที่ผู้คัดค้านมีหนังสือตอบผู้ร้องว่า ผู้คัดค้านไม่อาจยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีตามเอกสารหมาย ร.16 ดังกล่าว เป็นการแจ้งความคิดเห็นของผู้คัดค้านไปยังผู้ร้องเท่านั้น ความเห็นของผู้คัดค้านดังกล่าวไม่ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 146 สิทธิของผู้ร้องมีอยู่เช่นไรในการที่จะบังคับชำระค่าภาษีดังกล่าวก็ยังคงมีอยู่มิได้เปลี่ยนแปลงไปตามความเห็นของผู้คัดค้าน ผู้ร้องไม่อาจร้องคัดค้านเป็นคดีนี้ได้ประเด็นนี้แม้คู่ความจะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาก่อน แต่ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยมานั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย”
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง