แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
การที่จำเลยมอบโฉนดที่ดินพร้อมด้วยใบมอบอำนาจและเอกสารอื่นให้แก่โจทก์เพื่อจดทะเบียนจำนองประกันหนี้ในการที่จำเลยนำเช็คไปขายลดแก่โจทก์ถึงแม้จะมีข้อกำหนดให้นำไปจดทะเบียนจำนองได้หลังจากเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ก็ตามแต่ก็เป็นเรื่องที่จำเลยมีเจตนาจะเอาทรัพย์จำนองเป็นประกันนั้นเองเมื่อไม่ได้มีการจดทะเบียนจำนองให้ถูกต้องตามกฎหมายสัญญาจำนองจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา115เดิมและมาตรา714ทั้งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ3ไม่ได้บัญญัติไว้ในที่ใดให้มีสัญญาจะจำนองได้เมื่อสัญญาจำนองตกเป็นโมฆะและสัญญาจะจำนองมีขึ้นไม่ได้ตามกฎหมายโจทก์จึงไม่อาจอ้างอิงสัญญาดังกล่าวและไม่มีอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยจดทะเบียนจำนองที่ดินไว้กับโจทก์เพื่อเป็นประกันหนี้ขายลดเช็ค
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2528 จำเลยได้เชิดหรือรู้แล้วยอมให้นายราชพัชร ทองโรจน์ และนายรักษ์พงศ์ ทองโรจน์เชิดตนเองเป็นตัวแทนนำเช็คที่บุคคลทั้งสองลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินจำนวน 500,000 บาท มาขายลดแก่โจทก์ โดยจำเลยให้สัญญากับโจทก์ว่า หากเช็คดังกล่าวไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ จำเลยยอมให้โจทก์นำโฉนดที่ดินเลขที่ 72069 พร้อมด้วยใบมอบอำนาจให้จำนองซึ่งยังมิได้ระบุชื่อผู้รับมอบอำนาจ สำเนาทะเบียนสมรสระหว่างจำเลยกับนายกรกฎ หลักเพชร สำเนาบัตรประจำตัวของจำเลยสำเนาบัตรประจำตัวของนายกรกฎ สำเนาบัตรประจำตัวของนายรักษ์พงศ์และสำเนาทะเบียนบ้านที่จำเลยมอบไว้ให้แก่โจทก์เพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ขายลดเช็คดังกล่าวไปจดทะเบียนจำนองไว้กับโจทก์ในวงเงิน 500,000 บาท ครั้นเมื่อเช็คถึงกำหนดสั่งจ่าย ปรากฎว่าธนาคารตามเช็คปฎิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงนำโฉนดที่ดิน ใบมอบอำนาจและเอกสารต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้นไปจดทะเบียนจำนอง แต่โจทก์ไม่สามารถจดทะเบียนจำนองได้ ทั้งนี้เพราะจำเลยได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดินใหม่ว่าโฉนดที่ดินฉบับที่มอบให้โจทก์สูญหายและขออายัดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ไว้ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 72069 แขวงลาดยาว เขตบางเขน กรุงเทพมหานครไว้กับโจทก์ในวงเงิน 500,000 บาท หากจำเลยไม่ปฎิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ใด ๆ กับโจทก์ไม่เคยมอบอำนาจหรือตั้งตัวแทนหรือเชิดบุคคลใดเป็นตัวแทนขายลดเช็คแก่โจทก์ นายราชพัชร ทองโรจน์ และนายรักษ์พงศ์ ทองโรจน์ได้ชำระหนี้ตามเช็คให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้ว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์จะฟ้องบังคับให้จำเลยจดทะเบียนจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 72069 แขวงลาดยาว เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ไว้กับโจทก์เพื่อเป็นประกันหนี้ขายลดเช็คได้หรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำฟ้องของโจทก์ปรากฎว่าจำเลยเป็นผู้ก่อหนี้ขึ้น โดยเชิดหรือรู้แล้วยอมให้นายราชพัชร ทองโรจน์ และนายรักษ์พงศ์ ทองโรจน์เชิดตนเองเป็นตัวแทนนำเช็คไปขายลดแก่โจทก์ การที่จำเลยมอบโฉนดที่ดินพร้อมด้วยใบมอบอำนาจและเอกสารอื่นให้แก่โจทก์เพื่อจดทะเบียนจำนองประกันหนี้ดังกล่าว ถึงแม้จะมีข้อกำหนดให้นำไปจดทะเบียนจำนองได้หลังจากเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ก็ตามแต่ก็เป็นเรื่องที่จำเลยมีเจตนาที่จะเอาทรัพย์จำนองเป็นประกันนั้นเอง เมื่อไม่ได้มีการจดทะเบียนจำนองให้ถูกต้องตามกฎหมายสัญญาจำนองจึงเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 115 เดิม และมาตรา 714 ที่โจทก์ฎีกาว่าจำเลยไม่ได้มีเจตนาจะจดทะเบียนจำนองทันที แต่มีเงื่อนไขว่าจะจดทะเบียนจำนองกันในภายหน้าหลังจากเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้แล้ว จึงไม่จำต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และไม่ตกเป็นโมฆะนั้น ศาลฎีกาเห็นว่านอกจากเจตนาที่แท้จริงของจำเลยต้องการเอาทรัพย์จำนองเป็นประกันดังวินิจฉัยไว้แล้ว ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 อันเป็นเอกเทศสัญญาก็ไม่ได้บัญญัติไว้ในที่ใดให้มีสัญญาในลักษณะดังกล่าวซึ่งเป็นสัญญาจะจำนองได้ ไม่เหมือนสัญญาจะซื้อขายทรัพย์สินสัญญาจะแลกเปลี่ยนและคำมั่นจะให้ ซึ่งบัญญัติไว้ในมาตรา 456 วรรคสอง มาตรา 519 และมาตรา 526 เมื่อสัญญาจำนองตกเป็นโมฆะและสัญญาจะจำนองมีขึ้นไม่ได้ตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่อาจอ้างอิงสัญญาดังกล่าวและไม่มีอำนาจฟ้องบังคับให้จำเลยจดทะเบียนจำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 72069 แขวงลาดยาว เขตบางเขน กรุงเทพมหานครไว้กับโจทก์เพื่อเป็นประกันหนี้ขายลดเช็ค ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันมาให้ยกฟ้องโจทก์นั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน