คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2269/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านหนังสือยืนยันหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เกินกำหนดสิบสี่วันตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 119 วรรคสาม จึงถือว่าหนี้ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือยืนยันไปเป็นหนี้เด็ดขาดแล้ว.

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2531 ว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของสหกรณ์การเกษตรชาวไร่ยาสูบลานนาไทยจำกัด ลูกหนี้ (จำเลย) ได้มีหนังสือลงวันที่ 14 มีนาคม 2531ยืนยันให้ผู้ร้องชำระหนี้เงินทดรองค่าใบยาแห้งจำนวน 123,28.17 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 12 ต่อปี และชำระหนี้ค่าปุ๋ยจำนวน193,609.15 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่6 กุมภาพันธ์ 2527 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ผู้ร้องนำเงินไปชำระให้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายใน 14 วัน นับแต่วันได้รับหนังสือ ซึ่งครบกำหนดชำระในวันที่ 28 มีนาคม 2531 ผู้ร้องจึงมาร้องคัดค้านว่าผู้ร้องมิได้เป็นหนี้สหกรณ์การเกษตรชาวไร่ยาสูบลานนาไทย จำกัด ลูกหนี้ เนื่องจากสัญญาที่ทำขึ้นเป็นกรณีคู่สัญญาทำขึ้นโดยมีเจตนาลวง ไม่ประสงค์จะผูกพันกัน เพราะกรรมการของลูกหนี้ได้ขอร้องให้ผู้ร้องเข้าทำสัญญารับเป็นลูกหนี้เพื่อเป็นการเพิ่มทรัพย์สินให้แก่ลูกหนี้ และหนี้ดังกล่าวขาดอายุความแล้ว
ศาลชั้นต้นและมีคำสั่งว่า ผู้ร้องคัดค้านการยืนยันหนี้ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เกิน 14 วัน ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 119 วรรคสาม จึงไม่รับคำคัดค้านคืนค่าขึ้นศาลทั้งหมด
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 119 วรรคสาม ผู้ร้องจะต้องร้องคัดค้านเสียภายในสิบสี่วันนับแต่ได้รับแจ้งความยืนยันหนี้ ฉะนั้น ผู้ร้องจะต้องคัดค้านภายในวันที่ 28 มีนาคม 2531 เมื่อผู้ร้องมายื่นคำร้องคัดค้านในวันที่22 เมษายน 2531 เกินระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อาจมีคำขอต่อศาลให้บังคับให้ผู้ร้องชำระหนี้ได้อยู่แล้วตามมาตรา 119 วรรคสี่ จึงต้องถือว่า หนี้ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือยืนยันไปนั้นเป็นหนี้เด็ดขาดแล้ว
พิพากษายืน.

Share