แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายพยายามบังคับข่มขืนใจให้จำเลยดื่มสุราทั้งที่จำเลยปฏิเสธอ้างว่าป่วยดื่มไม่ได้ ผู้ตายก็เอาแก้วขว้างจนจำเลยต้องหลบถึง 2 ครั้ง แก้วที่แตกเสียหายทั้งสองใบนั้นก็เป็นของจำเลย หลังจากนั้นผู้ตายจึงผลักหน้าผากจำเลยล้มหงายลงแล้วผู้ตายยังตามเข้ามาเอาไหล่ดันจำเลยอีก ถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ แม้จะฟังว่าผู้ตายท้าให้แทงก่อนจำเลยจะแทงผู้ตายก็ตาม ก็ไม่เป็นการลบล้างโทสะของจำเลยเนื่องจากการถูกผู้ตาย ข่มเหงโดยไม่เป็นธรรมซึ่งเกิดขึ้นก่อนแล้วนั้น แต่กลับจะเป็นการเร่งให้โทสะเนื่องจากการถูกข่มเหงเกิดเร็วขึ้นเสียอีก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๑๙ เวลากลางวัน จำเลยใช้มีดปลายแหลมยาวทั้งด้ามและตัวมีด ๓๕ เซ็นติเมตร ใบมีดกว้าง ๒ ๑/๒ เซ็นติเมตร แทงนายหมื่น เพราะปลูก ถูกที่ด้านหลังสะบักขวา ๑ ทีโดยเจตนาฆ่าจนนายหมื่น เพราะปลูก ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่ตำบลบ้านปง อำเภอสูงเม่น จังหวัดแพร่ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ จำคุก ๑๘ ปี ลดโทษให้ตามมาตรา ๗๘ หนึ่งในสามแล้วคงจำคุก ๑๒ ปี ของกลางริบ
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยแทงผู้ตายโดยบันดาลโทสะ พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๗๒ จำคุก ๔ ปี ลดโทษให้ตามมาตรา ๗๘ หนึ่งในสาม คงจำคุก ๒ ปี ๘ เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อฟังได้ว่าผู้ตายพยายามบังคับข่มขืนใจให้จำเลยดื่มสุราทั้งที่จำเลยปฏิเสธอ้างว่าป่วยดื่มไม่ได้ ผู้ตายก็เอาแก้วขว้างจนจำเลยต้องหลบถึง ๒ ครั้ง แก้วที่แตกเสียหายทั้งสองใบนั้นก็เป็นของจำเลย หลังจากนั้นผู้ตายจึงผลักหน้าผากจำเลยล้มหงายลงแล้วผู้ตายยังตามเข้ามาเอาไหล่ดันจำเลยอีกถือได้ว่าจำเลยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายในขณะนั้น จึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ แม้จะฟังว่าผู้ตายท้าให้แทงก่อนจำเลยจะแทงผู้ตายก็ตาม ก็ไม่เป็นการลบล้างโทสะของจำเลยเนื่องจากการถูกผู้ตายข่มเหงโดยไม่เป็นธรรมซึ่งเกิดขึ้นก่อนแล้วนั้น แต่กลับจะเป็นการเร่งให้โทสะเนื่องจากการถูกข่มเหงเกิดเร็วขึ้นเสียอีก
พิพากษายืน