คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 226/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานหรือพยานแวดล้อม คงมีแต่คำให้การรับสารภาพของจำเลยชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนรวมทั้งบันทึกการนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพกับคำให้การชั้นสอบสวนของ ท.ซึ่งมีใจความทำนองเดียวกับคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลย คำให้การชั้นสอบสวนดังกล่าวเป็นพยานบอกเล่าบันทึกการนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพพร้อมภาพถ่ายจำเลยว่าเป็นการทำโดยไม่เต็มใจตามที่เจ้าพนักงานตำรวจสั่งเพราะกลัวถูกทำร้าย แม้โจทก์จะมีพันตำรวจตรีถ. เบิกความประกอบว่าชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ เหตุการณ์ที่พันตำรวจตรีถ. รับทราบเกี่ยวกับเรื่องจำเลยกระทำผิดก็เป็นเพียงพยานบอกเล่าไม่พอฟังว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 290 วรรคหนึ่ง จำคุก 9 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานหรือพยานแวดล้อมกรณีมาเบิกความเกี่ยวกับจำเลยทำร้ายผู้ตาย นอกจากนี้พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบเพื่อพิสูจน์ความผิดของจำเลยคือคำให้การรับสารภาพของจำเลยชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนรวมทั้งบันทึกการนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพกับคำให้การชั้นสอบสวนของนายประทีปสังคโยค นั้น สำหรับคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยและนายประทีปมีใจความทำนองเดียวกันว่าวันเกิดเหตุจำเลยกับนายประทีปไปพบผู้ตายยังเรือประมงที่ผู้ตายทำงานแล้วจำเลยทวงเงินที่ผู้ตายยืมจำเลยไป 1,000 บาท ผู้ตายไม่ยอมให้ จึงเกิดโต้เถียงและชกต่อยกันจนผู้ตายล้มลงจำเลยกระทืบผู้ตายที่ใบหน้าและลำตัวหลายครั้งนายประทีปเข้าห้ามและพาจำเลยกลับไป เห็นว่า คำให้การชั้นสอบสวนดังกล่าวเป็นพยานบอกเล่ามีน้ำหนักน้อยส่วนบันทึกการนำตัวผู้ต้องหาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพพร้อมภาพถ่ายนั้นจำเลยเบิกความว่าเป็นการทำโดยไม่เต็มใจ ทำตามเจ้าพนักงานตำรวจสั่งเพราะกลัวจะถูกทำร้าย แม้โจทก์จะมีพันตำรวจตรีถวัล มั่งคั่ง มาเบิกความประกอบว่าเป็นผู้จับกุมจำเลยในข้อหาฆ่าผู้อื่น ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพเหตุการณ์ที่พันตำรวจตรีถวัลรับทราบเกี่ยวกับเรื่องจำเลยกระทำผิดก็เป็นเพียงพยานบอกเล่า ไม่เพียงพอที่จะรับฟังว่าจำเลยเป็นผู้ทำร้ายผู้ตายจนถึงแก่ความตายที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share