แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ไม้สักที่ขึ้นอยู่ในที่ดินของเอกชน ได้ถูกตัดและขายกันต่อมาตลอดจนการแปรรูปไม้ได้กระทำก่อนแต่วันใช้พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3) 2494 ดังนี้ไม้สักดังกล่าวนั้น ย่อมไม่ใช่ไม้หวงห้าม ผู้ใดจะมีไว้ในครอบครองจึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องขออนุญาต
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยบังอาจมีไม้สักแปรรูปไว้ มีเนื้อไม้ 1.98 เมตรลูกบาศก์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษ ฯลฯ
จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยซื้อไม้ของกลางมาจากผู้มีชื่อ เมื่อ พ.ศ. 2491-2493เพื่อปรับปรุงประกอบเป็นเครื่องใช้บ้านเรือน
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงฟังว่า ไม้สักรายนี้เป็นไม้ที่ขึ้นอยู่ในที่ดินของเอกชนได้ตัดฟันและขายกันต่อมาถึงจำเลย ตลอดจนการแปรรูปไม้ได้กระทำก่อนแต่วันใช้พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2494 ดังนี้ ไม้ของกลางรายนี้ ก็ไม่ใช่ไม้หวงห้ามดังฟ้อง จำเลยมีไม้ดังกล่าวไว้ในครอบครอง จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องขออนุญาต และไม่เป็นความผิด
จึงพิพากษายืน