คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ร้อยตำรวจตรีกมลกับพวกจับกุมจำเลยในข้อหาเล่นการพนันสลากกินรวบ และค้นตัวจำเลยได้บัตรรับฝากรถจักรยานและกระดาษฟุลสแก๊ปมีเขียนเลข 2 ฉบับ จำเลยแจ้งว่าเป็นสลากกินรวบซื้อมาจากโจทก์ดังนี้ ถือว่าจำเลยกล่าวในฐานะผู้ต้องหาหรือเสมือนผู้ต้องหาจำเลยหามีความผิดฐานแจ้งความเท็จไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจแจ้งความซึ่งรู้ว่าเป็นเท็จเกี่ยวแก่คดีอาญาแก่ร้อยตำรวจตรีกมลซึ่งมีหน้าที่สอบสวนคดีอาญา ขณะตำรวจค้นพบบัตรรับฝากรถจักรยานและเศษกระดาษฟุลสแก๊ปมีตัวเลข ว่าเป็นเลขสลากกินรวบซื้อจากโจทก์ ความจริงไม่ใช่เป็นเลขสลากกินรวบ แต่เป็นบัตรสำหรับผู้ดูภาพยนตร์มาฝากรถจักรยานไว้กับโจทก์ ขอให้ลงโทษตามมาตรา 172, 173, 174

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้อง เห็นว่าคดีไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยถูกจับกุมว่ากระทำผิดฐานเล่นการพนันสลากกินรวบและตกเป็นผู้ต้องหา จำเลยกล่าวในฐานะเป็นผู้ต้องหา แม้ข้อความนั้นจะเป็นเท็จ ก็ไม่ผิดตามฟ้อง พิพากษายืนในผลยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อวันที่โจทก์กล่าวหา ร้อยตำรวจตรีกมลกับพวกได้จับกุมจำเลยในข้อหาเล่นการพนันสลากกินรวบ ร้อยตำรวจตรีกมลตรวจค้นตัวจำเลยได้บัตรรับฝากรถจักรยาน และกระดาษฟุลสแก๊ปมีเขียนเลข 2 ฉบับ จำเลยได้แจ้งว่าเป็นสลากกินรวบทั้ง 2 ฉบับ และซื้อจากโจทก์ ดังนี้ การที่จำเลยแจ้งแก่ร้อยตำรวจตรีกมล จึงถือได้ว่าจำเลยได้กล่าวในฐานะเป็นผู้ต้องหาหรือเสมือนผู้ต้องหา ว่าเล่นการพนันสลากกินรวบ และจำเลยก็น่าจะเข้าใจเช่นนั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่ใช่เป็นเรื่องแจ้งความเท็จ แต่เป็นการกล่าวแก้ในข้อที่ถูกเจ้าหน้าที่กล่าวหา จำเลยหามีความผิดฐานแจ้งความเท็จไม่ ฎีกาข้ออื่นก็ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน พิพากษายืน

Share