แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญา,โอนอำนาจในสัญญา คนนอกคดี
ย่อยาว
ได้ความว่า โจทย์กับจำเลยแลผู้อื่นได้เข้าหุ้นส่วนค้าขาย ต่อมาพวกหุ้นส่วนได้พร้อมใจกันเลิกการเปนหุ้นส่วน แลตกลงโอนห้องที่เช่าทำการค้าขายนั้นให้ จ. แล ล. แต่ จ. แล ล. ต้องออกเงินให้หุ้นส่วน ต่อมาจำเลยไม่ยอมโอนชื่อ จ. แล ล. ลงเปนผู้เช่าในสัญญาเช่าโจทย์จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนอำนาจในสัญญาเช่าให้โจทย์ หรือให้ถอนชื่อจำเลยออกเสียจากสัญญา
ศาลจังหวัดเพ็ชรบุรีพิพากษาให้ ซ.โอนสัญญาเช่าให้ จ. แล ล.
ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษเห็นว่า ซ.ได้ยอมโอนห้องเช่านี้ให้แก่ จ. แต่ตามสัญญาเช่าระหว่าง ซ. กับพระคลังข้างที่ปรากฎว่า ผู้รับเช่าจะยอมไม่เอาห้องไปให้ผู้อื่นเช่าหรือโอนต่อไปโดยที่มิได้รับอนุญาตของผู้ให้เช่า จ. จะขอให้บังคับ ซ. โอนสัญญาเช่ามาเปนชื่อ จ. ไม่ได้ เพราะสัญญาเช่าจำกัดอำนาจแลน่าที่ไว้เด็ดขาดแล้ว แลในการเลิกหุ้นส่วน ซ.ได้รับเงินจาก จ. แล้ว ๙๗ บาท ๙๓ สตางค์ ถ้า ซ.จะขอให้ขับไล่ จ. แล ล. ซ.ต้องคืนเงินนั้นเสียก่อน
ศาลฎีกาเห็นว่า ห้องเช่ารายนี้ ซ.มีหนังสือสัญญาเช่า แลผู้ให้เช่าจำกัดอำนาจมิให้ ซ. โอนให้ผู้ใด แม้ศาลเชื่อว่า ซ. ได้ยอมยกห้องแถวรายนี้ให้แก่ จ. ล. ในการเลิกหุ้นส่วนก็ดี ศาลก็ไม่มีอำนาจบังคับให้ผู้เช่าอันเปนบุคคลนอกคดีถอนชื่อ ซ. ออกจากหนังสือสัญญาเช่าได้ ซ.ยังเปนผู้รับผิดชอบต่อผู้ให้เช่า จึงมีอำนาจขับไล่ จ. ล.ได้ ส่วนที่ ซ.ประพฤติผิดสัญญาการเลิกหุ้นส่วนถ้า จ. แล ล. เสียหาย แลคิดว่าตนมีอำนาจฟ้อง ก็ให้ว่ากล่าวกันเปนอีกเรื่องหนึ่ง จึงให้ยกข้อหาของ จ. แล ล. แลให้ขับไล่ จ. ล. ออกจากห้องเช่าโดยไม่ต้องให้ ซ.นำเงิน ๙๗ บาท ๙๓ สตางค์มาคืน