แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้คัดค้านอ้างว่าผู้ตายยกที่ดินมีโฉนดให้ ผู้คัดค้านครอบครองได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว ทั้งทรัพย์มรดกของผู้ตายก็ไม่มีเหลืออยู่เลย ล้วนแต่เป็นเรื่องนอกประเด็นจากคำร้องขอจัดการมรดก เพราะประเด็นแห่งคดีมีว่าสมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกตามคำร้องขอหรือไม่เท่านั้น
ที่ดินดังกล่าวเป็นทรัพย์มรดกหรือไม่ เมื่อผู้คัดค้านอ้างว่าเป็นของตนก็ชอบที่จะไปดำเนินคดีเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหากจากคดีนี้
ผู้ตายมีทรัพย์มรดกหรือไม่ เป็นเรื่องระหว่างผู้ร้องกับศาลเท่านั้น ถ้าฟังว่าไม่มีทรัพย์มรดก ศาลก็สั่งยกคำร้อง ผู้คัดค้านหามีส่วนได้เสียในการที่ศาลจะตั้งหรือไม่ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกแต่ประการใด ไม่
ผู้คัดค้านไม่ใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย หรือไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย จึงไม่มีสิทธิร้องคัดค้าน ว่าผู้ร้องไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดก
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า มารดาผู้ร้องเป็นพี่สาวนายผล นายผลถึงแก่กรรมโดยมิได้ทำพินัยกรรมตั้งผู้จัดการมรดกไว้ มีมรดกคือที่ดินโฉนดเลขที่ 46 และ12758 นายผลไม่มีภริยาและบุตร บิดามารดานายผลถึงแก่กรรมไปก่อนแล้ว มรดกของนายผลจึงตกได้แก่พี่น้อง ผู้ร้องจึงเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดกแทนที่มารดาซึ่งถึงแก่กรรมไปแล้ว ขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่เคยอุปการะ ไม่เคยให้การรักษาพยาบาลไม่เป็นมิตร ไม่ไปมาหาสู่ผู้ตายนานแล้ว จึงไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดก ส่วนผู้คัดค้านได้ให้ความอุปการะนายผลตลอดมาจนกระทั่งตาย เมื่อ 30 ปีเศษ มาแล้ว นายผลยกที่ดินโฉนดเลขที่ 46 ให้ผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านได้ครอบครองตลอดมา ได้ยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ตามคดีแพ่งของศาลชั้นต้น คดีอยู่ระหว่างพิจารณา นายผลมีที่ดินแปลงนี้เท่านั้นเป็นมรดกไม่มีทรัพย์อื่น ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นสั่งคำร้องคัดค้านว่า ตามคำคัดค้านถือไม่ได้ว่าผู้คัดค้านเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ปรากฏว่าเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกรายนี้แต่อย่างใด ให้ยกคำร้องศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของผู้ร้องแล้ว มีคำสั่งตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้
ผู้คัดค้านอุทธรณ์คำสั่งขอให้รับคำคัดค้านไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ผู้คัดค้านอ้างว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 46 ผู้ตายได้ยกให้ผู้คัดค้านจนได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ ขณะนี้ผู้คัดค้านก็ยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ต่อศาลอยู่ ทรัพย์มรดกอื่นของผู้ตายก็ไม่มีเหลืออยู่เลย กรณีเช่นนี้ถือได้ว่าผู้คัดค้านเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามมาตรา 1713 ย่อมมีสิทธิยื่นคำคัดค้านได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยในประเด็นว่าผู้คัดค้านเป็นหลานเป็นทายาทของผู้ตายหรือไม่ พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้รับคำคัดค้านของผู้คัดค้าน และให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอย่างคดีมีข้อพิพาท
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ผู้คัดค้านกล่าวอ้างว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 46 นั้นผู้ตายได้ยกให้แก่ผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว ทั้งทรัพย์มรดกอื่นของผู้ตายก็ไม่มีเหลืออยู่เลย ล้วนแต่เป็นเรื่องนอกประเด็นจากคำร้องขอจัดการมรดกในคดีนี้ทั้งสิ้น เพราะประเด็นแห่งคดีนี้มีเพียงว่า สมควรจะตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกตามคำร้องขอหรือไม่เท่านั้น ส่วนประเด็นว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 46 เป็นทรัพย์มรดกหรือไม่ เมื่อผู้คัดค้านอ้างว่าเป็นของตน ก็ชอบที่จะไปดำเนินคดีเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหากจากคดีนี้และประเด็นว่าผู้ตายมีทรัพย์มรดกหรือไม่ ก็เป็นเรื่องระหว่างผู้ร้องกับศาลเท่านั้น กล่าวคือถ้าฟังว่าไม่มีทรัพย์มรดก ก็ชอบที่ศาลจะสั่งยกคำร้องผู้คัดค้านหามีส่วนได้เสียในการที่ศาลจะตั้งหรือไม่ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกแต่ประการใดไม่ ส่วนที่ผู้คัดค้านแก้ฎีกาขึ้นมาว่า ผู้คัดค้านเป็นผู้มีส่วนได้เสียเพราะเป็นหลานผู้ตายจึงมีสิทธิร้องคัดค้านได้นั้น เห็นว่าเป็นการกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยไม่ระบุว่าเป็นญาติเกี่ยวพันกับผู้ตายอย่างไร และเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดกหรือรับมรดกแทนที่กันหรือไม่อย่างไร ทั้งมิได้โต้แย้งว่าบัญชีเครือญาติท้ายคำร้องซึ่งไม่มีชื่อผู้คัดค้านอยู่ด้วยนั้นยังไม่ถูกต้อง จึงต้องฟังว่าญาติของผู้ตายมีตามที่ปรากฏจากบัญชีเครือญาติท้ายคำร้องเท่านั้น เมื่อผู้คัดค้านไม่ใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย หรือไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสีย ผู้คัดค้านจึงไม่มีสิทธิที่จะร้องคัดค้านว่าผู้ร้องไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดก
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งของศาลชั้นต้น ค่าฤชาธรรมเนียมค่าทนายให้เป็นพับ