คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2249/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ก. ถูกคนร้ายฆ่าตาย จำเลยเห็น ส.กับฮ. ร่วมกันฆ่า ก. ตาย โดยมิได้เห็น ท. ร่วมกระทำความผิดด้วยแต่จำเลยได้แจ้งแก่เจ้าพนักงานตำรวจผู้ออกไปสืบสวนและให้การต่อพนักงานสอบสวนว่าเห็น ท.ร่วมกับส.และฮ.ฆ่า ก. จึงเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนและเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ตามมาตรา 172
เมื่อการกระทำของจำเลยต้องด้วยมาตรา 172 ที่บัญญัติเป็นความผิดไว้โดยเฉพาะแล้ว ย่อมไม่เป็นความผิดตามมาตรา 137ซึ่งเป็นบทบัญญัติโดยทั่วไปอีก
กรณีที่จำเลยแจ้งความกล่าวหาเป็นเรื่องมีคนร้ายฆ่านายกวงตาย ซึ่งได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง มิใช่แจ้งความกล่าวหาโดยมิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น จำเลยจึงไม่มีความผิดตามมาตรา 173

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกระทง คือจำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่สิบตำรวจเอกซ้อนเจ้าพนักงานตำรวจผู้มีอำนาจหน้าที่สืบสวนคดีอาญาว่า ได้เห็นนายทวีกับนายฮวดและนายสมร่วมกันตีและยิงนายกวงจนถึงแก่ความตายเพื่อแกล้งให้นายทวีต้องรับโทษทางอาญาในความผิดฐานปล้นและฆ่าเจ้าทรัพย์ ความจริงจำเลยเห็นเฉพาะนายฮวดและนายสมเป็นคนทำ โดยไม่เห็นนายทวี นายทวีถูกจับกุมดำเนินคดีได้รับความเสียหายสิบตำรวจเอกซ้อนและพันตำรวจตรีไชยวัฒน์พนักงานสอบสวนได้รับความเสียหายด้วย ต่อมาจำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พันตำรวจตรีไชยวัฒน์ผู้มีอำนาจสืบสวนและสอบสวนคดีอาญามีข้อความเช่นเดียวกับที่กล่าวข้างต้น พนักงานสอบสวนหลงเชื่อจึงสอบสวนจำเลยเป็นพยาน และจับกุมนายทวีดำเนินคดี ความจริงจำเลยเห็นเฉพาะนายฮวดและนายสมโดยไม่เห็นนายทวี ทำให้พนักงานสอบสวนได้รับความเสียหาย และเพื่อแกล้งให้นายทวีได้รับโทษทางอาญาดังกล่าวข้างต้น ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 172, 173, 174, 181

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยได้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จ นายทวีผู้ถูกจับกุมดำเนินคดีสิบตำรวจเอกซ้อนและพันตำรวจตรีไชยวัฒน์ได้รับความเสียหาย กรณีไม่เข้ามาตรา 174 เพราะโจทก์ไม่ได้สืบว่าจำเลยแกล้งแจ้งความเท็จ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 137, 172, 173 ลงโทษตามมาตรา 173 ซึ่งเป็นกระทงหนักและบทหนัก จำคุก 3 ปี ข้อหาตามมาตรา 174 ให้ยก

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น เห็นว่า จำเลยมีความผิดตาม มาตรา 172 อันเป็นความผิด 2 กระทง อัตราโทษแต่ละกระทงเท่ากัน และไม่ผิดตามมาตรา 173 พิพากษาแก้ ให้ลงโทษตามมาตรา 172 ลดมาตราส่วนโทษตามมาตรา 76 หนึ่งในสามแล้ว เรียงกระทงลงโทษ จำคุกกระทงละ 4 เดือน รวมจำคุก 8 เดือน โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 และ 173 ด้วย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติแล้วว่า เมื่อนายกวงถูกฆ่าถึงแก่ความตาย จำเลยได้แจ้งแก่สิบตำรวจเอกซ้อนผู้ซึ่งออกไปสืบสวน และได้ให้การแก่พันตำรวจตรีไชยวัฒน์พนักงานสอบสวนว่าเห็นนายทวีร่วมกับนายสมและนายฮวดฆ่านายกวง พันตำรวจตรีไชยวัฒน์จึงจับกุมนายทวีมาดำเนินคดี ซึ่งเป็นความเท็จ ความจริงจำเลยไม่เห็นนายทวีร่วมในการฆ่านายกวงเลย ความผิดของจำเลยเข้าบทมาตรา 172แห่งประมวลกฎหมายอาญา เพราะเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนและเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา เมื่อการกระทำของจำเลยต้องด้วยบทที่บัญญัติเป็นความผิดไว้โดยเฉพาะ คือ มาตรา 172 แล้ว ย่อมไม่เป็นความผิดตามมาตรา 137 ซึ่งเป็นบทบัญญัติไว้โดยทั่วไปอีกและการกระทำของจำเลยเห็นได้ว่า ที่จำเลยแจ้งความกล่าวหาเป็นเรื่องมีคนร้ายฆ่านายกวงตายซึ่งได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง หาได้แจ้งความกล่าวหาโดยมิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นไม่ ส่วนข้อความอันเป็นเท็จนั้นมีเฉพาะตอนที่จำเลยแจ้งว่าจำเลยเห็นนายทวีเป็นคนร้ายที่ร่วมกระทำความผิดด้วยคนหนึ่งเท่านั้น จำเลยจึงหามีความผิดตามมาตรา 173 แห่งประมวลกฎหมายอาญาไม่

พิพากษายืน

Share