คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2240/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยใช้ไม้หน้ากว้าง 4 นิ้ว หนา 2 นิ้ว ยาว 2 ฟุต 8 นิ้วซึ่งเป็นไม้ขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นไม้เนื้อแข็งใช้สำหรับทำวงกบประตูหรือหน้าต่าง ตีที่ศีรษะผู้ตายในขณะที่ผู้ตายนั่งอยู่ไม่ได้ระวังตัว เป็นการเลือกตีตามใจชอบและเลือกตีที่สำคัญแม้จะตีเพียงทีเดียว และกะโหลกศีรษะผู้ตายไม่แตกร้าว แต่เมื่อถูกตีแล้วผู้ตายก็ฟุบลงกับโต๊ะทันทีและมีเลือดคั่งในสมองส่วนลึก แสดงว่าจำเลยตีผู้ตายอย่างแรง และปรากฏว่าผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาพฤติการณ์เช่นนี้จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีเจตนาฆ่าผู้ตาย
ไม้ของกลางโจทก์ไม่ได้โต้แย้งว่าเจ้าของแท้จริงรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ในส่วนที่พิพากษาว่าไม่ริบไม้ของกลาง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๓๐ เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยใช้ไม้กว้าง ๔ นิ้ว ยาวประมาณ ๓ ฟุต เป็นอาวุธตีสิบตำรวจโทสมพร เอียดแก้ว เจ้าพนักงานตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรตำบลเหนือคลองขณะปฏิบัติหน้าที่สืบสวนหาข่าว เพื่อทำการกวาดล้างอาชญากรรมโดยเจตนาฆ่าหลายที ถูกที่บริเวณศีรษะด้านหลัง เป็นเหตุให้สิบตำรวจโทสมพรถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่ตำบลโคกยาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เจ้าพนักงานยึดไม้ที่จำเลยใช้กระทำผิดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘,๒๘๙ ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ จำคุก ๑๘ ปี ริบไม้ของกลาง ข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๐ วรรคแรก จำคุก ๑๐ ปี มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ลดโทษให้หนึ่งในสี่ จำคุก ๗ ปี๖ เดือน ไม้ของกลางมิใช่ทรัพย์ของจำเลยที่นำมาใช้กระทำผิด แต่เป็นทรัพย์ของผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด จึงไม่ริบ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ ผู้ตายและจำเลยนั่งดื่มสุรากันอยู่ที่เก้าอี้ยาวในงานเลี้ยงซึ่งนายวินัยเจ้าของบ้านจัดขึ้น ผู้ตายและจำเลยต่างมีอาการมึนเมาเพราะเสพสุรา ผู้ตายส่งแก้วสุราให้จำเลยดื่ม แต่จำเลยไม่ยอมดื่ม พร้อมกันนั้นจำเลยใช้มือปัดแก้วทำให้สุราหก ผู้ตายและจำเลยลุกขึ้นทำท่าจะชกต่อยกัน จำเลยเดินออกจากเก้าอี้ยาวที่นั่งอยู่ไป ผู้ตายก็นั่งลง จำเลยไปหยิบไม้ของกลางหน้ากว้าง ๔ นิ้ว หนา ๒ นิ้ว ยาว ๒ ฟุต ๘ นิ้วกลับมาตีผู้ตาย ๑ ที ถูกที่หน้าผากซ้าย ผู้ตายฟุบลงกับโต๊ะเลือดคั่งในสมองส่วนลึก เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา โจทก์ฎีกาว่า การกระทำดังกล่าวจำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่าอาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงมีเจตนาฆ่าผู้ตายนั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยใช้ไม้ของกลางหน้ากว้าง ๔ นิ้ว หนา๒ นิ้ว ยาว ๒ ฟุต ๘ นิ้ว ซึ่งเป็นไม้ขนาดใหญ่ และตามภาพถ่ายหมายจ.๑ ลักษณะเป็นไม้เนื้อแข็งใช้สำหรับทำวงกบประตูหรือหน้าต่างตีที่ศีรษะผู้ตายในขณะที่ผู้ตายนั่งอยู่ไม่ได้ระวังตัว เป็นการเลือกตีตามใจชอบและเลือกตีที่สำคัญ แม้จะตีเพียงทีเดียว และกะโหลกศีรษะผู้ตายไม่แตกร้าวก็ตาม แต่ปรากฏว่าเมื่อถูกตีแล้ว ผู้ตายก็ฟุบลงกับโต๊ะทันทีและมีเลือดคั่งในสมองส่วนลึกของผู้ตาย แสดงว่าจำเลยตีผู้ตายอย่างแรง และปรากฏว่าผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา พฤติการณ์เช่นนั้น จำเลยย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า อาจทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยมีเจตนาเพียงทำร้ายไม่ได้มีเจตนาฆ่าผู้ตายนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยส่วนไม้ของกลางโจทก์ไม่ได้โต้แย้งว่าเจ้าของแท้จริงรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำผิด จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ในส่วนที่พิพากษาว่าไม่ริบไม้ของกลาง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเว้นแต่ไม้ของกลางไม่ริบ

Share