คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2235/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้กล่าวหาทั้งสี่เป็นลูกจ้างตำแหน่งระดับหัวหน้ามีอำนาจในการลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาตามระเบียบข้อบังคับการทำงานของโจทก์ผู้กล่าวหาทั้งสี่จึงเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานไม่ได้เพราะขัดต่อพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 95 วรรคสอง แต่เมื่อระเบียบข้อบังคับการทำงานของโจทก์ไม่ได้กำหนดให้โจทก์มีอำนาจเพิกถอนตำแหน่งระดับหัวหน้าของลูกจ้างในกรณีเช่นนี้ และไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดให้อำนาจโจทก์จึงเพิกถอนตำแหน่งของผู้กล่าวหาทั้งสี่โดยอาศัยเหตุที่ผู้กล่าวหาทั้งสี่สมัครเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสิบสองคนเป็นคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้มีคำสั่งที่ 11/2536 ให้เพิกถอนคำสั่งของโจทก์ที่ให้เพิกถอนตำแหน่งหัวหน้างานของลูกจ้างโจทก์ และแต่งตั้งให้นางสาวนันทาเชยหอม นางวัฒนา ละมูล นางแจง กันรักษา และนายทวาย อินทร์ผักแว่นลูกจ้างของโจทก์ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกและปฏิบัติงานในตำแหน่งหน้าที่ไม่ต่ำกว่าตำแหน่งเดิม คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะนางสาวนันทา นางวัฒนา นางแจง และนายทวาย มีตำแหน่งเป็นหัวหน้างานมีอำนาจในการให้คุณให้โทษแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานส่งเสริมสิ่งทอไทย ซึ่งเป็นการขัดต่อพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 95 ขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่ 11/2536 เสีย
ในระหว่างพิจารณา โจทก์ขอถอนฟ้องเฉพาะจำเลยที่ 1 ศาลแรงงานกลางอนุญาต และอนุญาตตามคำขอของโจทก์ให้เรียกนายประมูล จันทรจำนงเข้ามาเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้
จำเลยและจำเลยร่วมให้การว่า คำสั่งของจำเลยและจำเลยร่วมที่ 11/2536 ชอบแล้ว การเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานของผู้กล่าวหาทั้งสี่ไม่ขัดต่อกฎหมาย เพราะผู้กล่าวหาทั้งสี่มิใช่ผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจในการจ้าง การลดค่าจ้าง การเลิกจ้าง การให้บำเหน็จ หรือการลงโทษ ข้อบังคับของโจทก์ไม่ได้ห้ามบุคคลที่มีตำแหน่งหัวหน้างานเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน และไม่มีข้อบังคับว่าถ้าลูกจ้างซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานแล้ว ให้โจทก์มีอำนาจปลดจากการเป็นผู้บังคับบัญชาได้ การที่โจทก์มีคำสั่งเพิกถอนตำแหน่งหัวหน้างานของผู้กล่าวหาทั้งสี่จึงเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “โจทก์อุทธรณ์ว่าการที่ผู้กล่าวหาทั้งสี่ซึ่งเป็นลูกจ้างของโจทก์ตำแหน่งระดับหัวหน้ามีอำนาจลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา ตามระเบียบข้อบังคับการทำงานของโจทก์ เอกสารหมาย จ.17 ข้อ 5.2 ได้ สมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานส่งเสริมสิ่งทอไทย ซึ่งเป็นการขัดต่อพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 95 ถือได้ว่าผู้กล่าวหาทั้งสี่กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อโจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิที่จะเพิกถอนตำแหน่งระดับหัวหน้าของผู้กล่าวหาทั้งสี่ได้ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้กล่าวหาทั้งสี่เป็นลูกจ้างตำแหน่งระดับหัวหน้าซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจในการลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชาตามระเบียบข้อบังคับทำงานของโจทก์ เอกสารหมาย จ.17 ข้อ 5.2 ผู้กล่าวหาทั้งสี่จะเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานส่งเสริมสิ่งทอไทยไม่ได้ตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 95 วรรคสอง การที่ผู้กล่าวหาทั้งสี่เข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานส่งเสริมสิ่งทอไทย ย่อมทำให้การเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานนั้นไม่มีผลตามกฎหมาย เพราะขัดต่อบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ดังกล่าว แต่ตามระเบียบข้อบังคับการทำงานของโจทก์ไม่ได้กำหนดให้โจทก์มีอำนาจเพิกถอนตำแหน่งระดับหัวหน้าของลูกจ้าง ในกรณีที่ลูกจ้างนั้นสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานของลูกจ้างอื่น และไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดให้อำนาจโจทก์ที่จะกระทำการเช่นว่านั้นได้ จึงเห็นว่าโจทก์จะเพิกถอนตำแหน่งระดับหัวหน้าของผู้กล่าวหาทั้งสี่โดยอาศัยเหตุที่ผู้กล่าวหาทั้งสี่สมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานส่งเสริมสิ่งทอไทยไม่ได้ อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share