คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1986/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้คัดค้านมิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดก จึงไม่มีสิทธิคัดค้านการขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ร้อง ซึ่งเป็นมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กหญิงย. ทายาทโดยธรรมของนายกผู้ตาย ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วตั้งนางคิ้ม แผ่นทอง เป็นผู้จัดการมรดกของนายเกลี้ยงหรือเคี้ยง แผ่นทองหรือแซ่เตียว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้คัดค้านฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ผู้คัดค้านฎีกาว่าผู้คัดค้านเป็นบุตรของนายเกลี้ยงผู้ตายเกิดกับนางแสวงภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายและถึงแก่ความตายไปก่อนหน้าที่จะได้ผู้ร้องเป็นภริยา ผู้คัดค้านจึงสมควรเป็นผู้จัดการมรดกนายเกลี้ยงหรือจัดการร่วมกับผู้ร้อง ข้อนี้ผู้ร้องนำสืบว่า ผู้คัดค้านเป็นบุตรนางเรียน บิดาชื่ออะไรไม่ปรากฏ ผู้คัดค้านอาศัยอยู่วัดกลางทองหลวง นายเกลี้ยง นางแสวง ไปขอมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กเพราะไม่มีบุตรด้วยกัน ที่ลงในทะเบียนบ้านว่าเป็นบุตรเพราะนายเกลี้ยงนางแสวงต้องการอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษา ผู้ร้องมีนางหลีมารดานายเกลี้ยงหรือเคี้ยงมาเบิกความยืนยันว่า นายเกลี้ยงไม่มีบุตรกับนางแสวง ไปขอผู้คัดค้านบุตรนางเรียนมาเลี้ยงไว้ตั้งแต่ผู้คัดค้านอายุ 2-3 ขวบ ผู้คัดค้านมิใช่บุตรของนายเกลี้ยง นางเคี้ยงหลานนายเกลี้ยงเป็นพยานผู้ร้องรู้เห็นว่านายเกลี้ยงขอผู้คัดค้านจากพระที่วัดกลางทองหลวงมาเลี้ยง นางลี้ นางอุทัย ซึ่งรู้จักนายเกลี้ยงนางแสวง ก็เป็นพยานว่าคนทั้งสองไม่มีบุตรด้วยกัน ผู้ร้องอ้างสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 168/2517 ของศาลจังหวัดชลบุรี ซึ่งนายเกลี้ยงกับผู้คัดค้านพิพาทกันเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนางแสวง นายเกลี้ยงเบิกความไว้ในคดีนั้นว่า ไม่มีบุตรกับนางแสวง ผู้คัดค้านเป็นบุตรนางเรียน ขอมาเลี้ยงไว้ตั้งแต่เด็กลงทะเบียนบ้านว่าเป็นบุตรเพื่อจะให้เรียนหนังสือ และคดีนั้นนายเกลี้ยงยังนำสืบนายโอดอาของนายแสวงยืนยันว่านายเกลี้ยง นางแสวงไม่มีบุตรด้วยกัน ได้ขอผู้คัดค้านจากพระมาเลี้ยงไว้ เพราะนางเรียนมารดาผู้คัดค้านเอาผู้คัดค้านไปไว้ที่วัด ผู้คัดค้านเบิกความในคดีดังกล่าวว่าเคยได้ยินคนอื่นพูดว่าผู้คัดค้านเป็นบุตรคนอื่นที่นายเกลี้ยงขอมาเลี้ยงไว้ ผู้คัดค้านจะเป็นบุตรนายเกลี้ยง นางแสวงจริงหรือไม่ ไม่ทราบผู้คัดค้านเคยไปรับเงินที่ธนาคารออมสินกับนายเกลี้ยง นายเกลี้ยงแจ้งต่อธนาคารว่าผู้คัดค้านไม่ใช่บุตร ที่ผู้คัดค้านอ้างว่า บุตรนายเกลี้ยง นางแสวงมี 3 คน คือผู้คัดค้าน กับเด็กหญิงเยาวลักษณ์ เด็กหญิงเยาวรัตน์ ผู้ร้องอ้างสำนวนคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 647/2521 ของศาลจังหวัดชลบุรีซึ่งผู้ร้องกับผู้คัดค้านพิพาทกันเรื่องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนางแสวงผู้คัดค้านได้เบิกความในคดีดังกล่าวว่าเด็กหญิงเยาวรัตน์เป็นบุตรนางไสว เด็กหญิงเยาวลักษณ์เป็นบุตรใครไม่ทราบ นายเกลี้ยง นางแสวงเอามาเกลี้ยงและลงในทะเบียนบ้านว่าเป็นบุตร สำหรับพยานบุคคลที่ผู้คัดค้านนำสืบมีนายชมคนเดียว แต่เบิกความว่าความจริงผู้คัดค่านจะเป็นบุตรใครไม่ทราบ ผู้คัดค้านได้อ้างเอกสารสำเนาทะเบียนบ้านและหนังสือที่สำนักงานเทศบาลเมืองพนัสนิคมทำขึ้นรับรองว่าเป็นบุตรนายเกลี้ยงหรือเคี้ยง มารดาชื่อนางแสวง โดยอาศัยหลักฐานจากทะเบียนบ้าน ดังที่ผู้คัดค้านเบิกความไว้ในคดีแพ่งของศาลจังหวัดชลบุรี หมายเลขแดงที่ 168/17 เจ้าหน้าที่ผู้ทำเอกสารไม่ได้สอบสวนเอาความจริงว่าถูกต้องตามเอกสารนั้น และนายเกลี้ยงผู้แจ้งให้เจ้าหน้าที่จดลงไว้ในทะเบียนบ้าน เบิกความได้ด้วยว่าที่แจ้งว่าผู้คัดค้านเป็นบุตรนายเกลี้ยง นางแสวง เพื่อประสงค์จะให้การศึกษาความจริงผู้คัดค้านไม่ใช่บุตรจริงตามหลักฐานทะเบียนบ้าน สำหรับประวัตินายสิบ พลทหาร (แบบ ส.ด.9)ของผู้คัดค้าน รายงานประจำวันของสถานีตำรวจภูธรอำเภอพนัสนิคม ไม่ใช่เอกสารที่นายเกลี้ยงเจ้ามรดกทำขึ้นในลักษณะแสดงชัดว่าผู้คัดค้านเป็นบุตร หลักฐานทะเบียนคนเกิดที่จะเป็นข้อพิสูจน์ว่าผู้คัดค้านเป็นบุตรเกิดจากนางแสวงขณะเป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของเจ้ามรดก ผู้คัดค้านไม่มีแสดง ลำพังแต่เอกสารที่ผู้คัดค้านอ้างดังกล่าวไม่มีน้ำหนักพอจะฟังหักล้างพยานหลักฐานของผู้ร้องได้ ผู้คัดค้านไม่ใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกรายนี้ จึงไม่มีสิทธิคัดค้านการขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ร้องซึ่งเป็นมารดาผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กหญิงเยาวเรศ แผ่นทอง ทายาทโดยชอบธรรมของนายเกลี้ยง แผ่นทอง ผู้ตาย ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก ที่ศาลล่างทั้งสองตั้งให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรกดนายเกลี้ยงเจ้ามรดกแต่ผู้เดียวชอบแล้ว”

พิพากษายืน

Share