คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่า ‘โฆษณา’ ตามพจนานุกรมให้คำจำกัดความว่า การเผยแพร่หนังสือออกไปยังสาธารณชน การป่าวร้อง คดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยกระทำหมิ่นประมาทโจทก์ ด้วยการทำเป็นบันทึกแทนการพูดด้วยวาจา โดยเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดและส่งสำเนาให้ปลัดกระทรวงทราบด้วย ก็เป็นเพียงการรายงานความประพฤติของโจทก์ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปได้ทราบเท่านั้น ถือไม่ได้ว่าการหมิ่นประมาทนั้นกระทำด้วยการโฆษณาตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 และมิใช่เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณาตามมาตรา 393 ด้วย
คดีที่ฎีกาได้แต่เฉพาะในปัญหาข้อกฎหมาย แม้โจทก์จะฎีกาด้วยว่าควรลงโทษจำเลยสูงขึ้น ศาลฎีกาก็มีอำนาจวินิจฉัยได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจดูหมิ่น หมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สามโดยทำบันทึกเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดว่าโจทก์ประพฤติชั่วกระทำผิดวินัยข้าราชการอย่างร้ายแรง ฯลฯ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นเกลียดชังและเป็นการดูหมิ่นโจทก์ด้วยการโฆษณาด้วยเอกสาร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 393 ฯลฯ

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326

โจทก์และจำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยตามเอกสารหมาย จ.1ข้อ 3 ก็เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสารอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ด้วย และควรลงโทษจำเลยสูงกว่าโทษปรับ

จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้องโดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาในศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยใส่ความโจทก์โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ ส่วนปัญหาตามฎีกาโจทก์นั้นเห็นว่า คำว่า “โฆษณา” ตามพจนานุกรมให้คำจำกัดความว่า การเผยแพร่หนังสือออกไปยังสาธารณชน การป่าวร้อง คดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยกระทำหมิ่นประมาทโจทก์ด้วยการทำบันทึกแทนการพูดด้วยวาจา โดยเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดแม้จะได้ความว่าได้ส่งสำเนาให้ปลัดกระทรวงทราบด้วยก็เป็นเพียงการรายงานความประพฤติของโจทก์ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปได้ทราบเท่านั้น ถือไม่ได้ว่าการหมิ่นประมาทนั้นกระทำด้วยการโฆษณาตามความในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 และมิใช่เป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณาตามมาตรา 393 ด้วย ส่วนเรื่องโทษนั้นศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยเฉพาะปรับและกำหนดค่าปรับเหมาะสมแล้ว

พิพากษายืน

Share