คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2229/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มีหน้าที่ต้องปฎิบัติตามคำพิพากษาที่พิพากษาให้โจทก์รื้อบ้านและออกไปจากที่ดินของจำเลย ตราบใดที่โจทก์ยังไม่รื้อบ้านดังกล่าวออกไปจากที่ดินของจำเลย จำเลยชอบที่จะขอให้ศาลออกหมายจับเพื่อจับกุมโจทก์มากักขังไว้จนกว่าจะรื้อบ้านออกไปจากที่ดินของจำเลย เมื่อผู้รับมอบอำนาจโจทก์ยังคงอยู่ในบ้านที่ถูกบังคับให้ต้องรื้อไปตามคำพิพากษาแต่ไม่ปรากฎว่าผู้รับมอบอำนาจโจทก์แสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในแปดวันนับแต่วันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ปิดประกาศดังนี้ จำเลยย่อมขอให้ศาลออกหมายจับกุมผู้รับมอบอำนาจโจทก์มากักขังได้เช่นเดียวกัน เพราะกฎหมายถือว่าผู้รับมอบอำนาจโจทก์เป็นบริวารของโจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์แพ้คดีและถูกบังคับให้ต้องรื้อบ้านออกไปจากที่ดินของจำเลยตามฟ้องแย้งแล้ว กลับมาอ้างในชั้นบังคับคดีว่าโจทก์มิใช่เจ้าของบ้านดังกล่าวจึงไม่อาจปฎิบัติตามคำพิพากษาได้นั้น เป็นการแสดงให้เห็นว่าโจทก์กล่าวอ้างขึ้นเพื่อประสงค์ให้การบังคับคดีของจำเลยถูกประวิงให้ล่าช้าออกไปเท่านั้นและการที่โจทก์กล่าวอ้างว่าโจทก์และผู้รับมอบอำนาจโจทก์ย้ายออกจากบ้านดังกล่าวไปอยู่ที่อื่นแล้วก็ดี หรือบุคคลที่ยังอยู่ในบ้านมิใช่บริวารของโจทก์ก็ดี หาเป็นเหตุให้โจทก์และบริวารพ้นจากความรับผิดในอันที่จะถูกจับกุมไม่

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลฎีกาพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ให้โจทก์รื้อถอนบ้านเลขที่ 319 และ 321 พร้อมกับขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 3483 ตำบลโฆสิตาราม อำเภอบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ของจำเลยกับให้โจทก์ชำระค่าเสียหายแก่จำเลยเดือนละ 1,000 บาท นับแต่วันฟ้องแย้งจนกว่าจะรื้อถอนบ้านออกไป โจทก์ไม่ปฎิบัติตามคำพิพากษา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2537 โจทก์และนางสาวกนกพรรณ รัตนการุณย์ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ซึ่งเป็นบริวารของโจทก์ถูกจับกุมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 จัตวา (1)
โจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์และผู้รับมอบอำนาจโจทก์ได้ย้ายไปอยู่อาศัยที่บ้านเลขที่ 194/1 และบ้านเลขที่ 100/2 ตรอกวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2530 ส่วนบ้านเลขที่ 319 และ 321โจทก์และผู้รับมอบอำนาจโจทก์ไม่ได้เป็นเจ้าของและเกี่ยวข้องมานานแล้วบุคคลที่อยู่อาศัยในบ้านทั้งสองหลังไม่ได้เป็นบริวารของโจทก์ กรณีที่จำเลยพาเจ้าพนักงานตำรวจไปจับกุมโจทก์และผู้รับมอบอำนาจโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้เพิกถอนหมายจับและออกหมายปล่อย
จำเลยคัดค้านว่า โจทก์และบริวารยังคงอยู่อาศัยในบ้านพิพาททั้งสองหลัง การกระทำของโจทก์เป็นการประวิงคดีไม่ปฎิบัติตามคำพิพากษาของศาลขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าคดีมีเหตุที่จะเพิกถอนหมายจับหรือไม่ เห็นว่า โจทก์มีหน้าที่ต้องปฎิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่พิพากษาให้โจทก์รื้อบ้านเลขที่ 319 และ 321 ออกไปจากที่ดินของจำเลยตราบใดที่โจทก์ยังไม่รื้อบ้านดังกล่าวออกไปจากที่ดินของจำเลย จำเลยชอบที่จะขอให้ศาลออกหมายจับเพื่อจับกุมโจทก์มากักขังไว้จนกว่าจะรื้อบ้านออกไปจากที่ดินของจำเลย ขณะบังคับคดีจำเลยและเจ้าพนักงานบังคับคดีพบเห็นผู้รับมอบอำนาจโจทก์ยังคงอยู่ในบ้านที่ถูกบังคับให้ต้องรื้อไปตามคำพิพากษา เมื่อไม่ปรากฎว่าผู้รับมอบอำนาจโจทก์แสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในแปดวันนับแต่วันที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ปิดประกาศ ย่อมขอให้ศาลออกหมายจับกุมผู้รับมอบอำนาจโจทก์มากักขังได้เช่นเดียวกันเพราะกฎหมายถือว่าผู้รับอำนาจโจทก์เป็นบริวารของโจทก์ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา การที่โจทก์กล่าวอ้างว่าโจทก์มิใช่เจ้าของบ้านที่จะต้องรื้อตามคำพิพากษาทั้งที่โจทก์ฟ้องจำเลยโดยอาศัยบ้านดังกล่าวเป็นหลักฐานว่าโจทก์สร้างบ้านนี้ลงบนที่ดินของจำเลยและครอบครองบ้านบนที่ดินจำเลยจนเกิน10 ปี ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินของจำเลยโดยการครอบครองปรปักษ์เมื่อโจทก์แพ้คดีและถูกบังคับให้ต้องรื้อบ้านออกไปจากที่ดินของจำเลยตามฟ้องแย้งแล้ว กลับมาอ้างในชั้นบังคับคดีว่าโจทก์มิใช่เจ้าของบ้านดังกล่าว จึงไม่อาจปฎิบัติตามคำพิพากษาได้นั้น ย่อมเป็นข้อกล่าวอ้างที่ฟังไม่ขึ้นแต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าโจทก์กล่าวอ้างขึ้นเพื่อประสงค์ให้การบังคับคดีของจำเลยถูกประวิงให้ล่าช้าออกไปเท่านั้น และการที่โจทก์กล่าวอ้างต่อไปว่าโจทก์และผู้รับมอบอำนาจโจทก์ย้ายออกจากบ้านดังกล่าวไปอยู่ที่อื่นแล้วก็ดี หรือบุคคลที่ยังอยู่ในบ้านมิใช่บริวารของโจทก์ก็ดี หาเป็นเหตุให้โจทก์และบริวารพ้นจากความรับผิดในอันที่จะถูกจับกุมไม่ เมื่อปรากฎโดยแจ้งชัดว่าโจทก์ไม่ยอมรื้อบ้านออกไปจากที่ดินของจำเลยตามคำบังคับให้ปฎิบัติตามคำพิพากษา และมีบุคคลเข้าไปอยู่อาศัยบ้านดังกล่าวในระหว่างการบังคับคดี จำเลยชอบที่จะให้จับกุมโจทก์และบุคคลดังกล่าวมากักขังไว้จนกว่าจะปฎิบัติตามคำพิพากษาคดีไม่มีเหตุให้เพิกถอนหมายจับ
พิพากษายืน

Share