แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่เพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นจนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในประเด็นสำคัญ และมีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นด้วยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 196
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลให้ประทับฟ้อง
วันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยไม่มาศาลตามหมายเรียก ศาลชั้นต้นจึงให้ออกหมายจับจำเลยและให้จำหน่ายคดีจากสารบบความชั่วคราว ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องว่า โจทก์ได้สืบหาตัวจำเลยจึงได้ทราบความจริงว่า จำเลยมีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่านายปรีชา พันธุ์โสภา แต่ได้ติดต่อธุรกิจการค้ากับโจทก์ในนามของนายกิมเฮงหรือชาญยุทธ พันธุ์โสภาและจำเลยได้สั่งจ่ายเช็คชำระค่าสินค้าให้โจทก์ในนามของนายชาญยุทธพันธุ์โสภา โดยอ้างว่าเป็นเช็คของตนเอง โจทก์จึงเข้าใจผิดเกี่ยวกับชื่อของจำเลย จึงขอแก้ฟ้องในส่วนที่เกี่ยวกับชื่อของจำเลยจากชื่อนายชาญยุทธ พันธุ์โสภา เป็นนายชาญยุทธ์ พันธุ์โสภา หรือนายปรีชาพันธุ์โสภา ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้
นายปรีชา พันธุ์โสภา ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า เป็นคนละคนกับนายชาญยุทธ พันธุ์โสภา จำเลย และขอคัดค้านคำร้องขอแก้ฟ้องของโจทก์ว่า คำร้องของโจทก์ไม่ได้แสดงเหตุอันสมควรที่ขอแก้ฟ้อง การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง ทำให้ผู้ร้องต้องถูกจับกุมคุมขังในฐานะจำเลย ซึ่งเป็นการควบคุมหรือขังโดยผิดกฎหมาย ขอให้ปล่อยตัวผู้ร้องและเพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบเสีย
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า นายชาญยุทธ พันธุ์โสภา จำเลยกับนายปรีชา พันธุ์โสภา ผู้ร้องเป็นคนเดียวกัน การออกหมายจับและการจับกุมคุมขังเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง ก่อนถึงวันนัด ทนายโจทก์ ทนายจำเลยและนายปรีชา พันธุ์โสภา มาศาล ศาลชั้นต้นพิจารณาคำร้องและคำคัดค้านแล้ว เห็นว่า นายชาญยุทธ พันธุ์โสภา กับนายปรีชา พันธุ์โสภา มิได้เป็นบุคคลคนเดียวกัน จึงให้งดไต่สวนและให้เพิกถอนคำสั่งที่อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องเสีย ให้จำหน่ายคดีสำหรับนายปรีชา พันธุ์โสภา ออกจากสารบบความ
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว โจทก์อุทธรณ์และฎีกาเป็นทำนองเดียวกันว่า คำสั่งเพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องของศาลชั้นต้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้ เห็นว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่เพิกถอนคำสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งนั้นจนกว่าศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งในประเด็นสำคัญ และมีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๖อุทธรณ์และฎีกาของโจทก์จึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว การที่ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และฎีกาและศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยให้จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และยกฎีกาโจทก์.