แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่า ทางพิพาทยาวประมาณ 400 เมตร ทางด้านทิศตะวันออกของที่ดิน ของจำเลยขนานตลอดแนวยาวจากทางด้านทิศเหนือมาทางด้านทิศใต้บนที่ดินของจำเลย เป็นภารจำยอมและทางจำเป็นของที่ดินโจทก์ตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ ทั้งที่ความยาวของที่ดินของจำเลยมีความยาวเพียงประมาณ 27 เมตร เท่านั้น คำพิพากษา ของศาลล่างทั้งสองในส่วนนี้ถือได้ว่าเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อย ศาลฎีกาเห็นควรแก้ไขให้ถูกต้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 โดยให้ตัดข้อความที่ว่ายาวประมาณ 400 เมตร ออกจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่า ทางพิพาทซึ่งยาวประมาณ 400 เมตรผ่านที่ดินจำเลย เป็นทางภารจำยอมที่โจทก์ได้มาโดยอายุความ ให้จำเลยไปจดทะเบียนภารจำยอมแก่โจทก์ ถ้าจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลยและขอให้พิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางจำเป็น ห้ามจำเลยปิดกั้น
จำเลยให้การว่า ทางพิพาทมิใช่ทางภารจำยอมหรือทางจำเป็นขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ทางพิพาทกว้างประมาณ 3 เมตร ยาวประมาณ400 เมตร ทางด้านทิศตะวันออกของที่ดินของจำเลยขนานตลอดแนวความยาวทิศเหนือมาด้านทิศใต้บนที่ดินโฉนดเลขที่ 2752 ตำบลในเมือง (ปทุม)อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี เป็นภารจำยอมและเป็นทางจำเป็นของที่ดินโฉนดเลขที่ 1927 ตำบลปทุม อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ของโจทก์ ห้ามจำเลยปิดกั้นและให้จำเลยจดทะเบียนภารจำยอมให้โจทก์ ถ้าจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนา
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 1927 พร้อมบ้านเลขที่ 152 ตำบลในเมือง (ปทุม) อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี จำเลยเป็นเจ้าของที่ดิน โฉนดเลขที่ 2752 เลขที่ดิน 44 ตำบลอำเภอและจังหวัดเดียวกันอยู่ติดด้านทิศใต้ของที่ดินของโจทก์และอยู่ติดด้านทิศตะวันตกของที่ดินของนางพิมพา บุตรนนท์ โดยด้านทิศใต้ของที่ดินของจำเลยและนางพิมพาอยู่ติดถนนพิชิตรังสรรค์ซึ่งเป็นทางสาธารณะโจทก์ใช้ทางจากที่ดินของโจทก์ผ่านบนที่ดินของจำเลยซึ่งอยู่ติดกับที่ดินของนางพิมพาอันเป็นทางพิพาทจากทิศเหนือไปทิศใต้ออกสู่ถนนพิชิตรังสรรค์ติดต่อกันเป็นเวลานานประมาณ 30 ปี ได้ภารจำยอมโดยอายุความแล้ว และทางพิพาทกว้าง 3 เมตร ตลอดแนว
วินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าทางพิพาทยาวประมาณ 400 เมตร ทางด้านทิศตะวันออกของที่ดินของจำเลยขนานตลอดแนวยาวทิศเหนือมาทางด้านทิศใต้บนที่ดินโฉนดเลขที่ 2752 เป็นภารจำยอมและทางจำเป็นของที่ดินโฉนดเลขที่ 1927 ตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์และศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืนนั้น ปรากฏว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 2752 มีเนื้อที่ประมาณ 43.2 ตารางวา และความยาวของที่ดินแปลงนี้เมื่อเทียบกับมาตราส่วนที่จำลองแผนที่แล้วจะมีความยาวเพียงประมาณ 27 เมตร เท่านั้น คำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองในสำนวนที่ว่าทางพิพาทยาวประมาณ400 เมตร เกินกว่าความยาวของที่ดินโฉนดเลขที่ 2752 กว่า 10 เท่า อย่างไรก็ตาม ข้อความต่อมาที่ว่าอยู่ทางทิศตะวันออกขนานตลอดแนวยาวทิศเหนือมาทางทิศใต้บนที่ดินโฉนดเลขที่ 2752 นั้น ชัดเจนโดยไม่จำเป็นต้องระบุความยาวของทางพิพาทก็ได้ ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าทางพิพาทยาวประมาณ 400 เมตร นั้น ถือได้ว่าเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อย ศาลฎีกาเห็นควรแก้ไขให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ตัดข้อความที่ว่ายาวประมาณ 400 เมตรออกจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1