แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่า จำเลยตีผู้ตายได้รับอันตรายแก่กายและยิงผู้ตายถึงแก่ความตายโดยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 295 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยตีผู้ตายไม่ถึงกับได้รับอันตรายแก่กาย แล้ว ก. เข้าห้ามจำเลยจึงยิง ก. แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย แม้ดังนี้ก็ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง อันจะเป็นเหตุให้ศาลต้องพิพากษายกฟ้องฐานฆ่าผู้อื่น (อ้างฎีกาที่ 784/2509) และการกระทำของจำเลยเป็นความผิด 2 กระทงตามมาตรา 391 และมาตรา 288, 60 ไม่ใช่ 2 บท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ปืนลูกซองยาวโยนลำแบบ 5 นัด เป็นอาวุธตีนายสมชายถูกบริเวณไหล่ซ้ายได้รับอันตรายแก่กาย และยิงนายสมชาย1 นัด โดยเจตนาฆ่าเป็นเหตุให้นายสมชายได้รับอันตรายสาหัส และสั่งคืนปืนและปลอกกระสุนปืนของกลางแก่กรมตำรวจ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยใช้ปืนตีผู้ตายแต่ไม่ถึงกับได้รับอันตรายแก่กายแล้วจำเลยใช้ปืนยิงนายเกษม แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 60, 391 แต่ให้ลงโทษตามมาตรา 288, 60 อันเป็นบทหนักตามมาตรา 90 ให้จำคุกจำเลย 20 ปี คืนอาวุธปืนและปลอกกระสุนปืนของกลางแก่กรมตำรวจ
จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้มีเจตนาฆ่าผู้ใด เหตุที่กระสุนปืนลั่นไปถูกผู้ตายเพราะนายเกษมดึงปืนจากมือจำเลย โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า แต่ทางพิจารณาปรากฏว่าจำเลยยิงนายเกษม แต่พลาดไปถูกผู้ตาย ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาจึงแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องในข้อสารสำคัญและทำให้จำเลยหลงต่อสู้
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ลดโทษให้จำเลย 1 ใน 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 15 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ใช้ปืนของกลางตีผู้ตายล้มลงนายเกษมเข้าห้าม จำเลยจึงใช้ปืนของกลางยิงนายเกษม แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย จึงวินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 60ตามนัยฎีกาที่ 651/2513 แล้วศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไปว่า กรณีเช่นนี้ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง อันจะเป็นเหตุให้ศาลต้องพิพากษายกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 784/2509 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โจทก์ นายกลิ้ง พงษ์บัว โจทก์ร่วม นายช่วง นัยบำเพ็ญ จำเลย แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 60, 391 ให้ลงโทษตามมาตรา 288, 60 อันเป็นบทหนักตามมาตรา 90 นั้น ไม่ถูกต้องเพราะความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้ตายกับความผิดฐานเจตนาฆ่านายเกษมพยานโจทก์แต่พลาดไปถูกผู้ตาย เป็นความผิดต่างกระทงกัน
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 60 ซึ่งเป็นกระทงหนักตามมาตรา 91นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์