คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นได้กำหนดให้โจทก็นำเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มมาชำระก่อนวันที่ 26 มกราคม 2509 และให้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 16 มีนาคม 2509 วันที่ 1 มีนาคม 2509 โจทก์ขอเลื่อนสืบพยานและศาลอนุญาต การที่ศาลอนุญาตให้เลื่อนสืบพยานไปก็ดี เลื่อนนัดพร้อมไปก็ดี เลื่อนนัดพร้อมไปก็ดี มิได้หมายถึงให้เลื่อนการชำระเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มด้วย เมื่อโจทก์เพิกเฉยไม่นำเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มมาชำระค่าขึ้นศาลขึ้นด้วย เมื่อโจทก์เพิกเฉยไม่นำเงินขึ้นศาลเพิ่มมาชำระต่อศาลภายในเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้ โดยโจทก์ทราบคำสั่งแล้ว จึงถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของมีสิทธิครอบครองที่พิพาท
จำเลยต่อสู้ว่าเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน และฟ้องแย้งให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของราชพัสดุ
วันชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นจดรายงานไว้ว่า จำเลยต่อสู้กรรมสิทธิ์ เป็นคดีมีทุนทรัพย์ โจทก์จำเลยตีราคาที่พิพาท ๖,๐๐๐ บาท ศาลจึงสั่งให้โจทก์นำเงินค่าขึ้นศาลที่เพิ่มขึ้นมาชำระก่อนวันพิจารณาวันที่ ๒๖ มกราคา ๒๕๐๙ ครั้นวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๐๙ ซึ่งเป็นวันนัดพร้อมเพื่อปรองดองแต่ไม่มีทางตกลงประนีประนอมยอมความกันได้ ศาลจึงได้จดรายงานว่า ตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๐๘ ศาลสั่งให้โจทก์นำเงินค่าขึ้นศาลที่เพิ่มมาชำระต่อศาล ก่อนวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๐๙ (น่าจะเป็น ๒๖ ม.ค. ๒๕๐๙) คู่ความได้ทราบคำสั่งแล้ว เวลาล่วงเลยมาจนถึงบัดนี้ก็ยังมิได้นำเงินดังกล่าวมาชำระต่อศาล จึงถือว่าคู่ความเพิกเฉย ไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลกำหนดตามมาตรา ๑๗๔ (๒) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จึงให้จำหน่ายคดี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์เห็นว่า ตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๐๘ ศาลชั้นต้นได้กำหนดให้โจทก์นำเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มมาชำระก่อนวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๐๙ และให้นัดสืบพยานโจทก์ไปวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๐๙ โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนการพิจารณา อันเป็นเวลาภายหลังที่ศาลได้กำหนดให้โจทก์นำเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มมาชำระแล้วถึงเดือนเศษ ฉะนั้น โจทก์จะมาอ้างว่าเข้าใจว่าศาลได้เลื่อนการชำระเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มให้โดยปริยายจึงฟังไม่ขึ้น เพราะโจทก์ได้เพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลมาก่อนแล้ว การที่ศาลอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานโจทก์ก็ดี เลื่อนไปนัดพร้อมก็ดี มิได้หมายถึงให้เลื่อนการชำระเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มด้วยทั้งเป็นคนละเรื่อง เมื่อโจทก์เพิกเฉยไม่นำเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มมาชำระต่อศาล ภายในเวลาที่ศาลกำหนด โดยโจทก์ได้ทราบคำสั่งศาลดังกล่าวแล้วจึงถือได้ว่าเป็นการที่โจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๔ (๒) พิพากษายืน

Share