แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ตาม ป.อ. มาตรา 140 วรรคสาม กับความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ตามมาตรา 289(2) ประกอบมาตรา 80 เป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 55,78 วรรคหนึ่ง และต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะตาม พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ มาตรา8 ทวิ วรรคหนึ่ง 72 วรรคสอง เพราะการกระทำที่แยกจากกันเป็นแต่ละฐานความผิดได้ชัดเจนไม่เกี่ยวเนื่องกัน ความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ เป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะ เพราะความผิดทั้งสองฐานมีเจตนาในการกระทำผิดเป็นคนละอันแตกต่างกัน และเป็นความผิดต่างฐานกัน.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,289, 340, 340 ตรี, 138, 140, 371, 80, 83, 91 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 3, 14, 15คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21ตุลาคม 2519 ข้อ 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ, 55, 72 ทวิ, 78คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม2519 ข้อ 3, 7 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2522 มาตรา 6พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2530 มาตรา 3 กฎกระทรวงฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2522) ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2522 และริบของกลางนอกจากรถจักรยานยนต์ซึ่งได้คืนเจ้าของไปแล้ว
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(2) (7) ประกอบมาตรา 80, 138 วรรคสอง ประกอบมาตรา140 วรรคสาม, 371, 83 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 3 คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 4 พระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 55, 72 ทวิ วรรคสอง, 78 วรรคหนึ่งคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 21 ตุลาคม2519 ข้อ 3, 7 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2522 มาตรา 6พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2530 มาตรา 3 กฎกระทรวงฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2522) ลงวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2522 เป็นการกระทำหลายกรรม ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526มาตรา 4 ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา 289(2) ประกอบมาตรา 52(1)ซึ่งเป็นบทหนักตามมาตรา 90 ให้วางโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงฯ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง ให้วางโทษจำคุก 10 ปี ฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่รับอนุญาต เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 ทวิ วรรคสอง ซึ่งเป็นบทหนัก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้วางโทษจำคุก 3 ปี ชั้นจับกุมจำเลยให้การรับสารภาพทุกข้อหา คำให้การชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง เป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามมาตรา 78 หนึ่งในสามฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานฯ เมื่อเปลี่ยนโทษจำคุกตลอดชีวิตเป็นจำคุก 50 ปี ตามมาตรา 53 แล้ว คงจำคุก 33 ปี4 เดือนฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงฯจำคุก 6 ปี 8 เดือน ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะและหมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 ปี รวมสามกระทงให้จำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 42 ปี ของกลางนอกจากรถจักรยานยนต์ให้ริบ ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า โทษจำคุกจำเลยรวม 3 กระทงคงจำคุก 41 ปี 12 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาสุดท้ายมีว่า การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทหรือไม่ เห็นว่าความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 140 วรรคสาม กับความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(2) ประกอบมาตรา 80 เป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 55, 78 วรรคหนึ่ง และต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะ ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง 72 ทวิ วรรคสองเพราะการกระทำตามความผิดดังกล่าวมีการกระทำที่แยกจากกันเป็นแต่ละฐานความผิดได้โดยชัดเจน ไม่เกี่ยวเนื่องกัน ส่วนความผิดฐานมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนนอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้นั้นเป็นความผิดต่างกรรมกับความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะ เพราะความผิดทั้งสองฐานมีเจตนาในการกระทำความผิดเป็นคนละอันแตกต่างจากกัน และยังเป็นความผิดต่างฐานกันอีกด้วย จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน…”
พิพากษายืน.