คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2212/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางเป็นของจำเลยที่ 1 ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ยังคงครอบครองมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางอยู่จำเลยที่ 2 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการครอบครอง จึงถือ ไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางไว้ในครอบครอง จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดฐานร่วมกันมีมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับอนุญาต
ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ผู้เป็นเจ้าของมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางกำลังกระทำความผิดตามฟ้องอยู่ เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจะเข้าจับกุม จำเลยที่ 2 ซึ่งทราบว่ากล่องกระดาษที่จำเลยที่ 1 หิ้วมามียาเสพติดให้โทษของกลางบรรจุอยู่จึงช่วยเหลือจำเลยที่ 1 โดยช่วยยกขยับแท็งก์น้ำเพื่อให้จำเลยที่ 1 เอากล่องกระดาษดังกล่าวใส่ในช่องใต้แท็งก์น้ำการกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามฟ้อง จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานมีมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับใบอนุญาต

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันมียาเสพติดมอร์ฟีนและโคเดอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับใบอนุญาต ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ

จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 17, 69 ให้จำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต

จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 53 กึ่งหนึ่ง จำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 25 ปี

จำเลยที่ 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ด้วย

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางเป็นของจำเลยที่ 1ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ยังคงครอบครองมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางอยู่จำเลยที่ 2 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการครอบครอง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 มีมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางไว้ในครอบครอง จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดฐานร่วมกันมีมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ผู้เป็นเจ้าของมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางกำลังกระทำความผิดตามฟ้องอยู่ เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจจะเข้าจับกุม จำเลยที่ 2 ซึ่งทราบว่ากล่องกระดาษที่จำเลยที่ 1หิ้วมามียาเสพติดให้โทษของกลางบรรจุอยู่จึงช่วยเหลือจำเลยที่ 1 โดยช่วยยกขยับแท็งก์น้ำเพื่อให้จำเลยที่ 1 เอากล่องกระดาษดังกล่าวใส่ในช่องใต้แท็งก์น้ำการกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามฟ้อง จำเลยที่ 2 จึงมีความผิดในฐานะเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานมีมอร์ฟีนและโคเดอีนของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 17 และ 69 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 จำคุก 12 ปี คำรับสารภาพชั้นจับกุมและคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 8 ปี

Share