แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้เสียหายไปแจ้งเรื่องถูกจำเลยข่มขืนกระทำชำเราต่อผู้ใหญ่บ้านโดยเล่าเรื่องให้ฟัง แล้วผู้เสียหายบอกผู้ใหญ่บ้านว่ารอดูไปก่อนหากย้อนมาอีกก็จะเอาเรื่อง แต่ถ้าไม่มาอีกก็แล้วไป แสดงว่าผู้เสียหายเพียงแจ้งไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น ไม่มีเจตนาจะให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษ จึงไม่ใช่คำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 (7) พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจสอบสวยตามที่พนักงานอัยการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 121 วรรคสอบ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๒๐ จำเลยข่มขืนกระทำชำเรานาง ร. จนสำเร็จความใคร่ ๒ ครั้ง และเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๒๐ จำเลยได้เข้าไปในบ้านอันเป็นเคหสถานของ-นาง ร. โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖, ๓๖๔,๓๖๕,๙๑ ฯลฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖, ๓๖๔,๓๖๕, ๙๑ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๗ จำคุกฐานข่มขืนกระทำชำเรา ๖ ปี ฐานบุกรุก ๒ ปี รวมจำคุก ๘ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
จำเลยฎีกา
สำหรับข้อหาเกี่ยวกับความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา ศาลฎีกาวินิจฉันว่าถึงแม้โจทก์นำสืบว่าหลังจากผู้เสียหายถูกข่มขืนกระทำชำเราแล้วผู้เสียหายได้ไปแจ้งต่อผู้ใหญ่บ้านโดยเล่าเรื่องให้ฟังก็ตาม แต่เมื่อผู้ใหญ่บ้านสอบถามว่าจะดำเนินคดีไหม ผู้เสียหายบอกว่ารอดูไปก่อนหากย้อนมาอีกก็จะเอาเรื่อง แต่ถ้าไม่มาอีกก็แล้วไป แสดงว่าผู้เสียหายเพียงแจ้งไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น โดยขณะที่แจ้งผู้เสียหายยังไม่มีเจตนาจะให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษ ครั้นเมื่อเกิดเหตุข้อหาบุกรุกตามฟ้อง ผู้ใหญ่บ้านพาผู้เสียหายไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้เสียหายกลับไม่แจ้งความเรื่องข่มขืนกระทำชำเรา โดยผู้เสียหายเบิกความยืนยันว่าที่ไม่แจ้งความเรื่องข่มขืนกระทำชำเราต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เพราะผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความกับจำเลย เป็นการแสดงเจตนาของผู้เสียหายโดยชัดแจ้งว่าผู้เสียหายไม่ประสงค์จะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษในข้อหาความผิดฐานนี้ ดังนั้น ที่ผู้เสียหายได้ไปแจ้งต่อผู้ใหญ่บ้านโดยเล่าเรื่องให้ฟังดังกล่าว จึงไม่ใช่เป็นคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒ (๗) พนกังานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อหาความผิดฐานข่มขืนกระทำชำรำ ตามที่พนักงานอัยการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติมเพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๒๑ วรรคสอบ ฯลฯ
พิพากษายืน.