คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2189/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาท ย่อมจะต้อง รับผิดตาม เนื้อความในเช็คนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 แม้จำเลยจะได้ลงลายมือชื่อในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. ก็หาทำให้จำเลยหลุดพ้นความรับผิดไปไม่เพราะจำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและเป็นหุ้นส่วนจำพวก ไม่จำกัดความรับผิด จึงต้องร่วมรับผิดในหนี้ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัด ป. ได้ก่อให้เกิดขึ้นด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1087 มาตรา 1080และมาตรา 1050 โจทก์ในฐานะผู้ทรงจึงมีอำนาจฟ้องจำเลย ให้รับผิดตามเนื้อความในเช็คพิพาทเป็นการส่วนตัวได้ โจทก์บรรยายฟ้องโดยแจ้งชัดถึงสภาพแห่งข้อหา และคำขอบังคับของโจทก์แล้วว่าโจทก์ได้รับเช็คพิพาทมาอย่างไรจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อในช่องผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงขอให้บังคับจำเลยรับผิด ตามเนื้อความในเช็คพิพาทนั้นแม้จะมิได้บรรยายหรือมีคำขอ ท้ายฟ้องให้เห็นว่าโจทก์มุ่งจะบังคับให้จำเลยต้องร่วมรับผิด ในบรรดาหนี้สินของห้างหุ้นส่วนจำกัดในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดก็ตาม ก็ถือได้ว่า เป็นการบรรยายฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 172 วรรคสองแล้ว คำให้การของจำเลยที่อ้างว่าได้ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาท ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการจึงไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยยกขึ้นกล่าวอ้างเพื่อปฏิเสธความรับผิดของจำเลย ภาระการพิสูจน์หรือหน้าที่นำสืบ ข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงตกอยู่แก่จำเลยการที่ศาลชั้นต้น กำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนจึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 594,825 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 566,500 บาทนับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนนาคได้สั่งจ่ายเช็คพิพาททั้งสองฉบับพร้อมทั้งประทับตราสำคัญของห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนนาคในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัว ทั้งโจทก์มิได้ฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนนาค และมิได้บรรยายฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนนาค จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน566,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2536 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนนาค ได้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาททั้งสองฉบับในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการและประทับตราสำคัญของห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนนาค มอบให้นางนวลแข รัตนพานิชเพื่อแลกเงินสดจากโจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการแรกมีว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยให้รับผิดในฐานะส่วนตัวหรือไม่ เห็นว่า จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อในเช็คพิพาททั้งสองฉบับ ย่อมจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 900 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ถึงแม้จำเลยจะได้ลงลายมือชื่อในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนนาค ก็หาทำให้จำเลยหลุดพ้นความรับผิดไปไม่เพราะจำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าว จึงต้องร่วมรับผิดในหนี้ซึ่งห้างหุ้นส่วนได้ก่อให้เกิดขึ้นด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1087 มาตรา 1080 และมาตรา 1050 กรณีต่างจากข้อเท็จจริงในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2487, 392/2489 และ 678/2490 ที่จำเลยยกขึ้นอ้างข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ ดังนั้น โจทก์ในฐานะผู้ทรงจึงมีอำนาจฟ้องให้จำเลยรับผิดตามเนื้อความในเช็คพิพาทเป็นส่วนตัวได้ ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยต่อไปมีว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์มิได้ระบุโดยชัดแจ้งว่า โจทก์ได้ฟ้องจำเลยให้รับผิดในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนนาคเป็นการฟ้องจำเลยผิดฐานะหรือเป็นการฟ้องผิดตัว เห็นว่าโจทก์ได้บรรยายฟ้องโดยแจ้งชัดถึงสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับของโจทก์แล้วว่า โจทก์ได้รับเช็คพิพาทมาอย่างไร จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อในช่องผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทนั้นเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจึงขอให้บังคับจำเลยให้ต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คพิพาทนั้น แม้จะมิได้บรรยายฟ้องหรือมีคำขอท้ายฟ้องให้เห็นว่าโจทก์มุ่งจะบังคับให้จำเลยต้องร่วมรับผิดในบรรดาหนี้สินของห้างหุ้นส่วนจำกัดในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดก็ตาม ก็ถือได้ว่าเป็นการบรรยายฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสองแล้วหาเป็นคำฟ้องที่เคลือบคลุมไม่ ส่วนที่จำเลยฎีกาจากจำเลยลงลายมือชื่อในเช็คพิพาทในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดปืนนาค จึงไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัวและศาลชั้นต้นกำหนดให้หน้าที่นำสืบในประเด็นดังกล่าวตกแก่จำเลยเป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า คำให้การดังกล่าวของจำเลยเป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยยกขึ้นกล่าวอ้างเพื่อปฏิเสธความรับผิดของจำเลย ภาระการพิสูจน์หรือหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงตกอยู่แก่จำเลย การที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยมีหน้าที่นำสืบก่อนจึงชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน”
พิพากษายืน

Share