คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2189/2532

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การพิจารณา ว่าเครื่องหมายการค้าใดเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าอื่นจนนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนหรือไม่นั้น จะต้องพิจารณา ส่วนประกอบของเครื่องหมายการค้าทั้งหมดรวมกัน โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสินค้าจำพวกน้ำยาฆ่ายางตราวัวแดง ส่วนของจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าตราแพะ แดง แม้สลากของจำเลยจะระบุชื่อร้านค้าและจังหวัดที่ผลิตสินค้าของจำเลยต่างกับของโจทก์ แต่การประดิษฐ์รูปแพะ แดงของจำเลยให้มีโหนกมีเขายาว หางยาวคล้ายวัวแดง ซึ่งทำให้ประชาชนเกิดการสับสนยากที่จะแยกแยะได้ว่าเครื่องหมายใดเป็นที่หมาย แห่งสินค้าของโจทก์หรือจำเลยทั้งข้อความที่แตกต่างเป็นข้อความเพียงสั้น ๆ ปนอยู่กับข้อความอื่นทั้งหมดในสลากซึ่งเหมือนกับข้อความในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ทุกตัวอักษรทั้งลักษณะและขนาดกรณีถือได้ว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์จนนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชน.
ในคดีเครื่องหมายการค้า ศาลจะพิพากษาให้นายทะเบียนจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอของโจทก์ไม่ได้เพราะเป็นการบังคับบุคคลที่มิได้เป็นคู่ความในคดีและโจทก์ก็สามารถไปขอจดทะเบียนได้เองอยู่แล้ว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตรา”วัวแดง” เพื่อใช้กับน้ำยาฆ่ายาง สินค้าจำพวกที่ 1 ต่อมาโจทก์ยังได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอื่น ๆ ที่มีรูปวัวแดงเป็นสาระสำคัญอีกหลายคำขอ สำหรับสินค้าน้ำยาฆ่ายางโจทก์ได้ส่งสินค้าของโจทก์ไปจำหน่ายในจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะในจังหวัดทางภาคใต้เป็นเวลากว่า 30 ปี แล้ว จำเลยเคยซื้อสินค้าดังกล่าวของโจทก์ไปจำหน่ายติดต่อกันประมาณ 10 ปี ต่อมาโจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตราวัวแดงมีลักษณะเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าตราวัวแดงอีกคำขอหนึ่งโดยเพิ่มเติมคำว่า “อารยะพาณิชย์ จ.ว.ตรัง และภาษาจีน” ไว้ที่ด้านบนรูปเครื่องหมายการค้าและขอเป็นชุดเดียวกับเครื่องหมายการค้าเดิมที่จดไว้แล้ว แต่โจทก์ได้รับแจ้งจากนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าว่า เครื่องหมายการค้าที่โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเหมือนหรือเกือบเหมือนกับเครื่องหมายการค้าตามคำขอซึ่งจำเลยขอจดทะเบียนไว้สำหรับสินค้าจำพวกที่ 1 ทั้งจำพวก และสำหรับสินค้าจำพวกที่ 4 ทั้งจำพวก นายทะเบียนจึงรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอของโจทก์ไม่ได้ โจทก์เห็นว่าโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ดีกว่าจำเลย การที่จำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวเพราะจำเลยมีเจตนาจะแข่งขันทางการค้าโดยไม่เป็นธรรมกับโจทก์ ทำให้ประชาชนผู้ซื้อหลงผิดในแหล่งกำเนิดของสินค้า ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าตราวัวแดงดีกว่าจำเลย ให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าระงับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอที่ 99131, 99241, 100079,100082, 100725, 100726 และ 100727 ของจำเลยและจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอที่ 106755 ของโจทก์ หรือให้จำเลยเพิกถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าทั้ง 7 คำขอดังกล่าว ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติให้ถือคำพิพากษาแสดงเจตนาแทนจำเลย
จำเลยให้การว่า เครื่องหมายการค้าของจำเลยไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ไม่ว่าในรูปร่าง ลักษณะหรือการเรียกขาน จำเลยมีสิทธิได้รับการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอของจำเลยดีกว่าโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า โจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าตราวัวแดงดีกว่าจำเลยให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 99131, 99241, 100079 และ 100727 ในสินค้าจำพวกที่ 1 กับคำขอที่ 100082, 100725 และ 100726 ในสินค้าจำพวกที่ 4 ของจำเลย หากจำเลยไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลย กับให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอที่ 106755 ให้แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ตามที่จำเลยฎีกาประการแรกสรุปได้ว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์ที่จดทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 และใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้นั้น คือ เครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.4ซึ่งเป็นรูปวัวแดงไม่มีตัวหนังสือล้อมรอบ ไม่ใช่เครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.1 หรือ จ.5 สำหรับเครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมายจ.2 จำเลยได้ใช้มาก่อนมีการจดทะเบียนเป็นเวลานานโดยโจทก์ไม่ได้คัดค้านหรือฟ้องร้องจำเลย เพราะเครื่องหมายการค้าหมาย จ.2 ของจำเลยกับเครื่องหมายการค้าหมาย จ.4 ของโจทก์ต่างกัน โดยของโจทก์ไม่มีสีสรรของสลาก จดทะเบียนไว้ในรูปขาวดำ ไม่มีตัวหนังสือล้อมรอบตราวัวแดง และการวางรูปตราวัวแดงก็ไม่เหมือนกับของจำเลยเครื่องหมายการค้าหมาย จ.1, จ.5 ซึ่งมีสีสรร โจทก์เพิ่งทำขึ้นและนำมาขอจดทะเบียนหลังจากจำเลยจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าหมายจ.2 ถึง 2 ปี นายทะเบียนจึงไม่รับจดทะเบียนให้เพราะเห็นว่าเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.2 ของจำเลยซึ่งได้จดทะเบียนไว้ก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยตามเอกสารหมาย จ.2 เหมือนกับเครื่องหมายการค้าเอกสารหมาย จ.4ของโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดีกว่าโจทก์นั้น เห็นว่าเครื่องหมายการค้าตามคำขอจดทะเบียนที่ 15168เอกสารหมาย จ.4 ของโจทก์ ซึ่งจำเลยรับว่าโจทก์ได้จดทะเบียนไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 ก่อนที่จำเลยจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นเครื่องหมายการค้าที่มีส่วนประกอบ 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นภาพสัตว์ และส่วนที่เป็นตัวอักษร ส่วนเครื่องหมายการค้าของจำเลยตามเอกสารหมาย จ.2 ก็มีส่วนประกอบ 2 ส่วนเช่นเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบส่วนที่เป็นภาพสัตว์แล้วจะเห็นว่ามีลักษณะคล้ายกัน แม้จำเลยจะเรียกรูปภาพสัตว์ของจำเลยว่าแพะแดงแต่จำเลยก็ประดิษฐ์รูปแพะของจำเลยให้มีโหนก มีเขายาว หางยาวคล้ายวัวแดง โดยเฉพาะส่วนที่เป็นตัวอักษรนั้นจำเลยได้นำตัวอักษรที่เป็นข้อความทั้งภาษาไทยและภาษาจีนรวมถึงการวางรูป การทำเส้นเป็นกรอบของโจทก์มาใช้ทั้งหมดคงเปลี่ยนเฉพาะที่เป็นชื่อบริษัทอารยะ ร.น.91 จังหวัดตรัง เป็นนครวิถีพาณิชย์จังหวัดนครฯ เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงเจตนาอันไม่สุจริตของจำเลยในอันที่จะลอกเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ สำหรับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.1 เมื่อพิเคราะห์แล้วจะเห็นได้ว่าโจทก์นำเอาเครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.4 ของโจทก์เองที่จดทะเบียนไว้แล้วมาเพิ่มเติมข้อความล้อมภาพสัตว์ คือ วัวแดงขึ้นเท่านั้น แม้โจทก์เพิ่งนำเครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.1ไปขอจดทะเบียนหลังจากที่จำเลยจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.2 แต่โจทก์ก็ยืนยันว่าโจทก์ได้ใช้เครื่องหมายดังกล่าวมาก่อนนั้นแล้ว กรณีจึงถือว่าจำเลยนำเครื่องหมายการค้าที่โจทก์ได้ใช้อยู่แล้วมาดัดแปลงและนำไปขอจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าของจำเลย โดยมีพฤติการณ์ที่แสดงว่าจำเลยจงใจลอกเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ดังจะเห็นได้อีกข้อหนึ่งคือหลังจากโจทก์ยื่นฟ้องเป็นคดีนี้แล้วจำเลยได้ไปยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอีกคำขอหนึ่งโดยใช้รูปแพะแดงหางสั้นเป็นเครื่องหมาย ทั้งนี้เพื่อให้เห็นว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยกับของโจทก์ไม่เหมือนกันดังปรากฏตามเอกสารหมาย จ.9 ซึ่งเป็นการกระทำที่ส่อถึงความไม่สุจริตใจของจำเลย หากจำเลยมั่นใจว่าเครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมายจ.2 เป็นของจำเลยเอง จำเลยมิได้ลอกเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จำเลยจะต้องกระทำเช่นนั้น ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ดังวินิจฉัยมาแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.1 ดังกล่าวดีกว่าจำเลย…
ที่จำเลยฎีกาอีกประการหนึ่งว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์กับของจำเลยไม่เหมือนกันเพราะของโจทก์เป็นวัว ส่วนของจำเลยเป็นแพะนอกจากนั้นสลากเครื่องหมายการค้าของโจทก์ยังระบุไว้ว่าบริษัทอารยะร.น.91 จังหวัดตรัง ส่วนของจำเลยก็ระบุไว้ชัดเจนว่านครวิถีพาณิชย์จังหวัดนครฯ นั้น เห็นว่า จำเลยมีเจตนาที่จะเลียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์อย่างเห็นได้ชัดด้วยการประดิษฐ์รูปแพะแดงให้มีลักษณะเหมือนกับวัวแดง ซึ่งการกระทำดังกล่าวย่อมทำให้ประชาชนเกิดการสับสนเพราะหากมองผ่าน ๆ แล้วยากที่จะแยกแยะได้ว่าเครื่องหมายใดเป็นที่หมายแห่งสินค้าของจำเลยหรือของโจทก์ กรณีฟังได้ว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์จนนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชน และแม้ภายใต้เครื่องหมายซึ่งเป็นรูปสัตว์คือรูปวัวแดงจะมีข้อความดังที่จำเลยอ้างก็ตาม การพิจารณาว่าเครื่องหมายการค้าใดเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าอื่นจนนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชนหรือไม่ จะต้องพิจารณาส่วนประกอบของเครื่องหมายการค้าทั้งหมดรวมกันข้อความที่จำเลยกล่าวนั้นปรากฏว่าเป็นข้อความเพียงสั้น ๆ ปนอยู่กับข้อความทั้งหมดซึ่งมีเป็นจำนวนมากในสลากเครื่องหมายการค้า ซึ่งข้อความทั้งหมดนั้นเหมือนกันกับข้อความในเครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.4 ของโจทก์ทุกตัวอักษรแม้กระทั่งลักษณะและขนาดของตัวอักษรก็เหมือนกัน โอกาสที่ประชาชนจะสังเกตและแยกแยะข้อแตกต่างระหว่างเครื่องหมายการค้าของโจทก์กับของจำเลยจึงไม่สามารถกระทำได้โดยง่ายกรณีถือได้ว่าเครื่องหมายการค้าของจำเลยเหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์จนนับได้ว่าเป็นการลวงสาธารณชน…แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอให้แก่โจทก์นั้น เป็นการบังคับบุคคลที่มิได้เป็นคู่ความในคดี และโจทก์ก็สามารถจัดการในเรื่องนี้ได้เองอยู่แล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นการไม่ถูกต้อง สมควรแก้ไขในเรื่องนี้”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำขอที่ให้นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอที่ 106755 ให้แก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share