คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2187/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นเอเยนต์จำหน่ายสุราขาวและสุราผสมในเขตจังหวัดสมุทรปราการและเป็นผู้ขายส่งสุราแม่โขงและสุรากวางทองในเขตจังหวัดนั้นด้วยการที่โจทก์อ้างว่าได้ขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองให้แก่บริษัท ป. ซึ่งเป็นตัวแทนช่วงอีกทอดหนึ่งของโจทก์ไปในราคาเท่าทุน เพราะโจทก์ไม่ได้ไปตั้งร้านค้าในเขตจังหวัดสมุทรปราการและเพื่อจูงใจให้บริษัท ป. ซื้อสุราขาวและสุราผสมของโจทก์ในราคาขายปลีกนั้น ก็เพื่อผลประโยชน์ของโจทก์ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตั้งร้านค้าเท่ากับเป็นกำไรส่วนหนึ่งของโจทก์ เมื่อโจทก์เป็นเอเยนต์สุราขาวและสุราผสมในเขตจังหวัดสมุทรปราการแล้วผู้อื่นก็ไม่สามารถนำสุราขาวและสุราผสมมาจำหน่ายในเขตจังหวัดนั้นได้ จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่โจทก์จะจำหน่ายสุราแม่โขงและสุรากวางทองแก่บริษัท ป.ไปในราคาเท่าทุน ราคาดังกล่าวจึงมิใช่เป็นราคาตลาด และเป็นการขายไปในราคาต่ำโดยไม่มีเหตุอันสมควร เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงค่าภาษีหรือชำระค่าภาษีให้น้อยลง เจ้าพนักงานประเมินย่อมมีอำนาจประเมินราคาขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองตามราคาตลาดตามประมวลรัษฎากรมาตรา 65 ทวิ (4) ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานประเมินได้ประเมินให้โจทก์ชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีปี พ.ศ. 2520-2522 รวม 1,733,054.39 บาท โดยอ้างว่าโจทก์จำหน่ายสุราแม่โขงและสุรากวางทองให้แก่บริษัทประโยคสิน จำกัดในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดคือราคาจำหน่ายสุราของบริษัทสุรามหาคุณจำกัด โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรจึงได้ประเมินราคาขายสุราดังกล่าวตามราคาตลาด โจทก์ไม่เห็นด้วย จึงอุทธรณ์การประเมินต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ต่อมาคณะกรรมการดังกล่าววินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์โจทก์แต่ผ่อนผันให้ลดเงินเพิ่ม โจทก์ไม่เห็นด้วยเพราะโจทก์เป็นเอเยนต์จำหน่ายสุราขาวในเขตจังหวัดสมุทรปราการส่วนสุราแม่โขงและสุรากวางทอง โจทก์เป็นเพียงผู้ขายส่ง จึงขายสุราทั้งสองชนิดดังกล่าวในราคาต่ำที่สุดเพื่อจูงใจให้ผู้ขายส่งซื้อสุราที่โจทก์เป็นตัวแทนมากที่สุด จึงขายในราคาทุนโดยมิได้ต่ำกว่าราคาที่บริษัทสุรามหาคุณ จำกัด กำหนดไว้ จึงไม่ต่ำกว่าราคาตลาด ขอให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ จำเลยทั้งห้าให้การว่าการที่โจทก์อ้างว่าขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองไปในราคาทุนไม่เป็นเหตุผลที่รับฟังได้ เพราะโจทก์ผูกขาดการขายสุราขาวและสุราผสมในเขตจังหวัดสมุทรปราการอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องยอมเสียกำไรในส่วนที่จะได้จากการขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองไปโดยเหตุที่ต้องจูงใจลูกค้าให้มาซื้อสุราขาวและสุราผสมของโจทก์จึงเป็นการขายต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่มีเหตุผลอันควร ต้องห้ามตามมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร การประเมินและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง ศาลภาษีอากรกลางพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์มีเพียงว่าในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2520 ถึง 2522 การที่โจทก์ขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองให้แก่บริษัทประโยคสิน จำกัดในราคาเท่าทุน ถือเป็นราคาตลาดได้หรือไม่ และเจ้าพนักงานประเมินจะใช้หลักเกณฑ์ตามมาตรา 65 ทวิ(4) แห่งประมวลรัษฎากร ได้หรือไม่โจทก์อุทธรณ์ว่า การที่โจทก์ขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองให้แก่บริษัทประโยคสิน จำกัด ในราคาเท่าทุน เป็นวิธีการที่จะประหยัดค่าใช้จ่าย โดยไม่ต้องไปตั้งร้านค้าที่จังหวัดสมุทรปราการเอง ซึ่งจะเสียค่าใช้จ่ายมาก เนื่องจากโจทก์ไม่มีความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในจังหวัดนั้น และเป็นการจูงใจบริษัทประโยคสิน จำกัดให้ซื้อสุราขาวและสุราผสมจากโจทก์ตามโควต้าที่กำหนดไว้ในช่วงราคาขายแก่ผู้ขายปลีก แทนที่ตามปกติจะต้องคิดราคาในช่วงขายแก่ผู้ขายส่ง ทำให้โจทก์ได้ผลประโยชน์มากกว่า เห็นว่า โจทก์เป็นเอเยนต์หรือตัวแทนจำหน่ายสุราขาวและสุราผสมในเขตจังหวัดสมุทรปราการ และเป็นผู้ขายส่งสุราแม่โขงและสุรากวางทองในเขตจังหวัดนั้น โดยซื้อจากบริษัทสุรามหาคุณ จำกัด ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้กำหนดอัตราขายสุราทั้งสองชนิดนี้ไว้ตลอดมา ปรากฏรายละเอียดตามเอกสารหมาย จ.10 ซึ่งเป็นราคาที่มีเหตุผลแบ่งปันผลกำไรกันเป็นช่วง ๆ ระหว่างเอเยนต์ ผู้ขายส่งและผู้ขายปลีก การที่โจทก์ในฐานะผู้ขายส่งสุราทั้งสองชนิดนี้ในเขตจังหวัดสมุทรปราการตั้งบริษัทประโยคสิน จำกัดเป็นตัวแทนช่วงอีกทอดหนึ่ง ก็เพื่อผลประโยชน์ของโจทก์เองในการที่จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตั้งร้านค้าเพื่อดำเนินกิจการในส่วนนี้ก็เท่ากับว่าเป็นกำไรส่วนหนึ่งของโจทก์นั่นเอง โจทก์อาจจะได้รับกำไรเท่ากับหรือมากกว่าขายตามราคาที่กำหนดไว้เสียอีก และโจทก์ไม่จำเป็นจะต้องขายในราคาเท่าทุน เนื่องจากโจทก์เป็นผู้ขายส่งแต่ผู้เดียวอยู่แล้วทั้งตามรายงานการประชุมคณะกรรมการบริษัทโจทก์ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.15 ก็มิได้ระบุไว้ให้ขายในราคาเท่าทุน เพียงแต่ว่าให้ได้กำไรน้อยหน่อย ซึ่งหมายความว่า เมื่อคิดเฉลี่ยกับการที่โจทก์ไม่ต้องตั้งร้านค้าดำเนินการเองดังกล่าวแล้ว ต้องถือว่าโจทก์จำหน่ายสุราทั้งสองชนิดนี้โดยมีกำไร โจทก์จะอ้างว่าจำหน่ายในราคาเท่าทุนหาได้ไม่ ส่วนข้อที่โจทก์อ้างว่าเพื่อเป็นการจูงใจบริษัทประโยคสินจำกัด ให้ซื้อสุราขาวและสุราผสมตามโควตาที่กำหนดไว้ในช่วงราคาขายแก่ผู้ขายปลีก แทนที่ตามปกติจะต้องคิดราคาในช่วงขายแก่ผู้ขายส่งนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่โจทก์คิดเอาผลประโยชน์เกินกว่าที่ควรจะได้จากบริษัทประโยคสิน จำกัด และบริษัทประโยคสิน จำกัด ก็อาจจะต้องนำไปขายในราคาที่สูงกว่าที่กำหนด ซึ่งจำเลยนำสืบว่าสามารถกระทำเช่นนี้ได้ อีกทั้งโจทก์เป็นเอเยนต์สุราขาวและสุราผสมแต่ผู้เดียวในจังหวัดสมุทรปราการ ตามหลักการแล้วผู้อื่นไม่สามารถจะนำสุราสองชนิดนี้เข้ามาขายในเขตจังหวัดสมุทรปราการได้ ทั้งโจทก์ก็มิได้นำสืบให้เห็นว่ามีบุคคลอื่นนำสุราขาวและสุราผสมมาขายในเขตจังหวัดสมุทรปราการแข่งขันกับโจทก์ อย่างไรก็ดีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่าง ๆในการที่จะคงไว้ซึ่งการเป็นเอเยนต์แต่ผู้เดียวดังกล่าวโดยเด็ดขาดนั้น ก็เป็นหน้าที่ของโจทก์หรือบริษัทประโยคสิน จำกัด หรือทั้งสองบริษัทร่วมกันต้องกระทำอยู่แล้วดังนั้น ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่าเป็นการจูงใจบริษัทประโยคสิน จำกัด ให้ซื้อสุราขาวและสุราผสมตามโควตาที่กำหนดไว้ จึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้โจทก์ต้องขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองให้แก่บริษัทประโยคสิน จำกัดไปในราคาเท่าทุนส่วนเอกสารต่าง ๆ ของโจทก์ที่แสดงว่าโจทก์ขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองไปในราคาเท่าทุนนั้น ก็เป็นเรื่องที่โจทก์จัดทำขึ้นเองซึ่งก็ไม่เป็นการยากที่โจทก์อาจจะทำให้สอดคล้องกันได้ไม่สามารถเป็นหลักฐานยืนยันว่าเป็นราคาที่โจทก์จำหน่ายไปจริงได้ตามพฤติการณ์ที่ปรากฏดังวินิจฉัยมา จึงเชื่อไม่ได้ว่าโจทก์ขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองไปในราคาเท่าทุน ดังนั้น เมื่อโจทก์แสดงหลักฐานทางเอกสารและบัญชีว่าโจทก์ขายสุราทั้งสองชนิดนี้ในราคาเท่าทุน จึงหาใช่เป็นราคาตลาดไม่ และโดยเหตุนี้ก็เท่ากับว่าโจทก์แสดงหลักฐานการขายสุราแม่โขงและสุรากวางทองไปในราคาต่ำโดยไม่มีเหตุอันสมควร ก็เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงค่าภาษีหรือชำระค่าภาษีให้น้อยลง เจ้าพนักงานประเมินจึงใช้หลักเกณฑ์ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ทวิ(4) ประเมินราคาตามราคาตลาดได้ไม่เป็นการขัดเจตนารมณ์ของกฎหมายดังที่โจทก์อุทธรณ์แต่อย่างใดที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้องนั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ให้โจทก์ใช้ค่าทนายความในชั้นนี้ 2,000 บาทแทนจำเลยทั้งห้า

Share