แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบัญชีมีหน้าที่ควบคุมดูแลบัญชีกระแสรายวัน ได้กรอกข้อความในแบบพิมพ์ใบนำฝากเงินเข้าบัญชีกระแสรายวันว่ามีการนำเช็คเงินสดมาเข้าบัญชีลูกค้าของธนาคาร และลงชื่อในช่องลายเซ็นชื่อผู้มีอำนาจท้ายแบบพิมพ์ เอกสารที่จำเลยทำขึ้นนั้นจำเลยทำในหน้าที่ของจำเลยเอง จำเลยไม่ได้ทำขึ้นเพื่อให้เห็นว่าเป็นเอกสารของผู้อื่น แม้ข้อความในเอกสารจะไม่เป็นความจริงโดยไม่มีเช็คมาเข้าบัญชี ก็เป็นเพียงจำเลยทำหนังสือของจำเลยเองอันมีข้อความเป็นเท็จเท่านั้น จำเลยยังไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิแม้จำเลยนำไปใช้ก็ไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบัญชีของธนาคารเอเชียทรัสท์ จำกัดสำนักงานใหญ่ มีหน้าที่ควบคุมดูแลการลงบัญชีกระแสรายวัน อนุมัติการฝากและถอนเงิน การโอนเงินในบัญชีของลูกค้า รับรองความถูกต้องของเช็คและใบนำฝากเงินอนุมัติให้ลูกค้าเบิกเงินเกินบัญชีได้ เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2516 เวลากลางวัน จำเลยได้บังอาจปลอมเอกสารสิทธิใบนำฝากเงินเข้าบัญชีของธนาคารเอเชียทรัสท์ จำกัดขึ้น 1 ฉบับ โดยจำเลยเอาแบบพิมพ์ใบนำฝากเงินเข้าบัญชีของธนาคารดังกล่าวมากรอกข้อความว่านางมันยิต เกอร์ เจ้าของบัญชีเงินฝากเลขที่ 4653 นำเช็คเงินสดของธนาคารเอเชียทรัสท์ จำกัด จำนวนเงิน 100,000 บาท เพื่อเข้าบัญชีโดยไม่มีตัวเช็คและหมายเลขที่เช็ค จำเลยกระทำเอกสารสิทธิปลอมขึ้นเพื่อให้ธนาคารเอเชียทรัสท์จำกัด สำนักงานใหญ่และเจ้าหน้าที่ของธนาคารเชื่อว่าเป็นใบนำฝากเงินเข้าบัญชีของเจ้าของบัญชีเลขที่ 4653 การกระทำของจำเลยทำให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าหน้าที่รับฝากเงินของธนาคารและธนาคารเอเชียทรัสท์ จำกัด ตามวันเวลาดังกล่าว จำเลยบังอาจใช้เอกสารสิทธิปลอมที่จำเลยทำขึ้นต่อธนาคารเอเชียทรัสท์จำกัด โดยนำไปเข้าบัญชีของนางมันยิต กอร์ บัญชีเลขที่ 4653 โดยจำเลยลงชื่อรับรองความถูกต้องในใบนำฝากเงินปลอมดังกล่าว ทำให้บัญชีเงินสดของนางมันยิต กอร์เพิ่มขึ้นโดยไม่มีเช็คเงินสดจำนวน 100,000 บาท มาเข้าบัญชี ธนาคารเอเชียทรัสท์ จำกัดได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาทตามวันเวลาดังกล่าว จำเลยได้ใช้อำนาจหน้าที่ของจำเลยโอนเงินจำนวน 100,000 บาท ออกจากบัญชีเลขที่ 4653 ของนางมันยิต กอร์ ไปยังบัญชีอื่น เพื่อประโยชน์ของจำเลยเอง โดยไม่มีหลักฐานประกอบการโอนบัญชีแต่อย่างใด จำเลยได้ลงชื่อรับรองความถูกต้องไว้เป็นการกระทำผิดหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของธนาคารเอเชียทรัสท์ จำกัด โดยทุจริตเหตุเกิดที่แขวงจักรวรรดิ์ เขตสัมพันธ์วงศ์ กรุงเทพมหานคร จำเลยเป็นคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 17100 และ 17101/2520 ของศาลอาญาขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265, 268, 353, 91 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 ให้จำเลยคืนเงิน100,000 บาท แก่ผู้เสียหาย และนับโทษจำเลยต่อโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 17100 และ 17101/2520 ของศาลอาญา
ธนาคารเอเชียทรัสท์ จำกัด ร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นคนเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 17100 และ 17101/2520 ของศาลอาญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 และ 268 ให้ลงโทษฐานใช้เอกสารปลอมตามมาตรา 268 จำคุก 2 ปี และจำเลยผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 4 ปี นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 17100 และ 17101/2520 ของศาลอาญา ให้จำเลยคืนเงิน100,000 บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สำหรับข้อหาปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอมนั้นแบบพิมพ์เอกสารหมาย จ.1 เป็นแบบพิมพ์ใบนำฝากเงินซึ่งมีข้อความว่าเงินฝากบัญชีกระแสรายวัน ตอนท้ายแบบพิมพ์เป็นช่องลายเซ็นชื่อผู้มีอำนาจ จึงเป็นแบบพิมพ์สำหรับเจ้าหน้าที่ธนาคาร จำเลยเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบัญชีมีหน้าที่ควบคุมดูแลบัญชีกระแสรายวัน เงินฝากบัญชีกระแสรายวันจึงอยู่ในอำนาจหน้าที่ของจำเลยด้วยจำเลยเป็นผู้ทำเอกสารหมาย จ.1 โดยกรอกข้อความว่า วันที่ 12 เมษายน 2516เงินฝากบัญชีกระแสรายวัน มันยิต กอร์ บัญชีเลขที่ 4653 เช็คธนาคาร เอทีบี จำนวนเงิน 100,000 บาท และจำเลยลงชื่อไว้ในช่องลายเซ็นชื่อผู้มีอำนาจ จำเลยทำเอกสารหมาย จ.1 ขึ้นในฐานะที่เป็นเอกสารที่จำเลยทำในหน้าที่ของจำเลย จำเลยไม่ได้ทำเอกสารหมาย จ.1 ขึ้น เพื่อให้เห็นว่าเป็นเอกสารของผู้อื่น จึงฟังไม่ได้ว่าเป็นการปลอมเอกสาร แม้ข้อความในเอกสารจะไม่เป็นความจริงโดยไม่มีเช็คมาเข้าบัญชีของนางมันยิต กอร์ ก็เป็นเพียงจำเลยทำหนังสือของจำเลยเองอันมีข้อความเป็นเท็จเท่านั้น จำเลยจึงยังไม่มีความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิ แม้จำเลยนำไปใช้ก็ไม่เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอม
ส่วนข้อหายักยอกนั้น ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำทุจริตผิดหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายโดยโอนเงิน 100,000 บาท ไปเป็นของจำเลยเองหรือเป็นของผู้อื่นและฟังไม่ได้ว่าเงินของธนาคารโจทก์ร่วมได้ขาดหายไป 100,000 บาท จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานนี้
พิพากษายืน