แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บรรยายฟ้องความว่า มีเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง คือกระสุนปืนเล็กสั้นบรรจุเองแบบ 87 ขนาด 7.62 ม.ม. เมื่อกฎกระทรวง ฉบับที่ 7(พ.ศ.2501) ฯลฯ ได้กำหนดเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในข้อ(16) คือ “เครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้กับสิ่งซึ่งระบุไว้ตั้งแต่ (1) ถึง (9) เว้นแต่เครื่องกระสุนปืน ชนิดและขนาดที่ใช้ได้แก่อาวุธปืนซึ่งได้รับอนุญาต” กฎกระทรวงดังกล่าวข้อ (3) ค. กำหนดว่า “ปืนเล็กสั้นแบบ 83 ขนาด 6.5 ม.ม. และ 7.62 ม.ม.” กระสุนปืนของกลางเป็นแบบ 87 ปืนในกฎกระทรวงข้อ (3) ค. เป็นแบบ 83ต่างแบบกัน. จะฟังว่ากระสุนปืนเล็กสั้นแบบ 87 ขนาด7.62 ม.ม. ในกฎกระทรวงข้อ (3) ค. ย่อมไม่ได้กระสุนปืนของกลางจึงไม่ใช่สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็เป็นการเข้าใจผิด ลงโทษจำเลยฐานมีกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจมีอาวุธปืนสั้นทำในประเทศไทยไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก และมีเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง คือกระสุนปืนเล็กสั้นบรรจุเองแบบ 87 ขนาด 7.62 ม.ม. 1 นัด โดยมิได้รับอนุญาตไว้ในครอบครอง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72, 55, 78 พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 5, 8 พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 กฎกระทรวง (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2501 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 ข้อ 16 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกตัวบทมาตราที่โจทก์ขอมาท้ายฟ้องแต่ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490มาตรา 78 ซึ่งเป็นบทหนัก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก1 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า กระสุนปืนของกลางไม่ใช่เครื่องกระสุนสำหรับใช้แต่เฉพาะในการสงคราม พิพากษาแก้ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 จำคุก 6 เดือนและปรับ 3,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงเหลือจำคุก 3 เดือน และปรับ 1,500 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ริบของกลาง
โจทก์ฎีกา
ปัญหาจะต้องวินิจฉัยว่า กระสุนปืนของกลางใช้เฉพาะแต่ในการสงครามหรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง เห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจคำร้องได้ดีว่ากระสุนปืนของกลางสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า กระสุนปืนเล็กสั้นบรรจุเองแบบ 87 ขนาด 7.62 ม.ม. ก็คือกระสุนปืนที่ใช้กับปืนเล็กสั้น ขนาด 7.62 ม.ม. นั่นเอง ปืนเล็กสั้นขนาด 7.62 ม.ม.เป็นอาวุธปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม และที่บรรยายฟ้องว่ากระสุนปืนเล็กสั้นบรรจุเองก็คือกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนซึ่งมีเครื่องกลไกที่บรรจุกระสุนเองสามารถยิงซ้ำได้ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2501) (3) ค. และ(16) ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว กฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2501) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 6 ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 ได้กำหนดเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในข้อ (16) คือ “เครื่องกระสุนปืน สำหรับใช้กับสิ่งซึ่งระบุไว้ตั้งแต่ (1) ถึง (9) เว้นแต่เครื่องกระสุนชนิดและขนาดที่ใช้ได้แก่อาวุธปืนซึ่งได้รับอนุญาต” กฎกระทรวงดังกล่าว ข้อ (3) ค. กำหนดว่า”ปืนเล็กสั้นแบบ 83 ขนาด 6.5 ม.ม. และ 7.62 ม.ม.” ซึ่งเป็นปืนที่โจทก์ฎีกาว่าเป็นปืนที่ใช้กับกระสุนปืนของกลาง ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ปรากฏว่ากระสุนปืนของกลางเป็นแบบ 87 ปืนในกฎกระทรวง ข้อ (3) ค. เป็นแบบ 83 ต่างแบบกัน ดังนั้น จะฟังว่ากระสุนปืนเล็กสั้นแบบ 87 ขนาด 7.62 ม.ม. ของกลางสำหรับใช้กับปืนเล็กสั้นแบบ 83 ขนาด 7.62 ม.ม. ในกฎกระทรวงข้อ (3) ค. ย่อมไม่ได้ กระสุนปืนของกลางจึงไม่ใช่สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็เป็นการเข้าใจผิด ลงโทษจำเลยฐานมีกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไม่ได้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องฐานนี้ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน