คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2174/2525

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา147 เป็นบทบัญญัติที่เอาผิดแก่เจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานที่เบียดบังเอาทรัพย์ที่ตนได้มาหรือถือไว้เพื่อจัดการตามหน้าที่ โดยไม่จำกัดว่าทรัพย์นั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของทางราชการหรือของรัฐ
เมื่อจำเลยกระทำผิดหลายกรรม ศาลลงโทษจำเลยทุกกรรม เป็นกระทงความผิดไป

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147, 161 ลงโทษตามมาตรา 147 รวม 182 กรรม จำคุกกรรมละ 5 ปีและลงโทษตามมาตรา 161 รวม 182 กรรม จำคุกกรรมละ 6 เดือน โดยให้นับโทษติดต่อกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่กรมตำรวจ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุกกรรมละ 5 ปี รวม 171 กรรม รวม 855 ปี จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ซึ่งร่วมเป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษาอนุญาตให้ฎีกาในข้อเท็จจริง

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่า จำเลยรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่แผนกทะเบียนคนต่างด้าวประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอหล่มเก่าจังหวัดเพชรบูรณ์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 ทำหน้าที่รับคำร้องขอต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวยื่นเข้ามาพร้อมกับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวการต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวต้องเสียค่าธรรมเนียมรายละ 200 บาทโดยเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าว ต้องไปซื้อแสตมป์ปิดไว้เป็นหลักฐานและนายทะเบียนคนต่างด้าวต้องลงลายมือชื่อกำกับบนแสตมป์ดังกล่าวด้วย” ฯลฯ

“ข้อเท็จจริงเป็นอันรับฟังได้ว่า การรับคำร้องขอต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวอันเป็นหน้าที่ของจำเลยนั้น จำเลยมีหน้าที่ต้องรับเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวด้วยโดยเงินค่าธรรมเนียมที่รับไว้นี้จำเลยจะต้องนำไปซื้ออากรแสตมป์จากนายทะเบียนคนต่างด้าวปิดในใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และจำเลยมีหน้าที่ทำเอกสารโดยกรอกข้อความรายการต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและเขียนใบเสร็จรับเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวนำเสนอนายทะเบียนคนต่างด้าวและดูแลรักษาเอกสารเกี่ยวกับงานทะเบียนคนต่างด้าว จำเลยรับเงินค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวแต่ละปีจากคนต่างด้าว 29 คน ตามรายการต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวเอกสารหมาย จ.4 ถึง จ.32 รวม171 ราย รายละ 200 บาทไว้แล้วจำเลยไม่นำไปซื้ออากรแสตมป์จากนายทะเบียนคนต่างด้าวปิดในใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และไม่ออกใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้ชำระเงินตามหน้าที่ เป็นการส่อให้เห็นเจตนาทุจริตของจำเลยแล้ว จำเลยได้กรอกรายการต่ออายุของแต่ละปีลงในใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว โดยการปลอมลายมือชื่อนายทะเบียนคนต่างด้าวและนำอากรแสตมป์เก่าที่ใช้แล้วมาปิดใหม่ การกระทำของจำเลยเป็นการปลอมเอกสารโดยอาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้นและเบียดบังยักยอกเงินค่าธรรมเนียมที่จำเลยได้รับไว้ตามหน้าที่ จำเลยฎีกาอ้างว่า เงินค่าธรรมเนียมที่จำเลยรับไว้จากคนต่างด้าวดังกล่าว จำเลยยังมิได้นำไปซื้ออากรแสตมป์จากนายทะเบียนคนต่างด้าว เงินจำนวนนี้จึงไม่ใช่ทรัพย์สินของทางราชการหรือของรัฐ จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 เป็นบทบัญญัติที่เอาผิดแก่เจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานที่เบียดบังเอาทรัพย์ที่ตนได้มาหรือถือไว้เพื่อจัดการตามหน้าที่ โดยไม่จำกัดว่าทรัพย์นั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของทางราชการหรือของรัฐ”

พิพากษายืน

Share