คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2162/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการขายทอดตลาดทรัพย์เพื่อเอาเงินชำระค่าปรับฐานผิดสัญญาประกันมีทรัพย์ 3 รายการ รวมทั้งทรัพย์รายพิพาทด้วย เจ้าพนักงานบังคับคดีได้โฆษณาบอกขายเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าสู้ราคาได้โดยเปิดเผยแล้ว เวลาขายทรัพย์อีก 2 รายการนั้น มีผู้เข้าสู้ราคา 2-3 คน แต่เมื่อขายทรัพย์รายพิพาทมีผู้สู้ราคาเพียงคนเดียว เมื่อไม่มีผู้อื่นสู้ราคาสูงขึ้นไปอีกแล้ว ผู้สู้ราคาคนเดียวนี้ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้สู้ราคาสูงสุด ศาลย่อมอนุญาตให้ขายให้แก่ผู้สู้ราคานี้ได้เมื่อเห็นว่าเป็นราคาสมควรแล้ว แม้จะมีผู้สู้ราคาเพียงคนเดียวก็จะถือว่าการขายทอดตลาดทรัพย์รายพิพาทนี้ ไม่เป็นไปตามวิธีการขายทอดตลาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 513, 514 หาได้ไม่

ย่อยาว

คดีนี้ เนื่องจากพนักงานอัยการโจทก์ฟ้องนายรัตน์ จาระนัยจำเลยเป็นคดีอาญา นายพัน หาญสมัคร นายเฉลิม เปี่ยมสุขะ นายคาวชำนาญศรี ร่วมกันประกันนายรัตน์จำเลยในระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นอนุญาตตีราคาแปดหมื่นบาท เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2513 ต่อมาศาลชั้นต้นสั่งปรับนายประกันทั้งสามคนตามสัญญาประกัน นายประกันไม่นำเงินค่าปรับมาชำระ ศาลจังหวัดชัยภูมิจึงสั่งยึดทรัพย์นายประกันทั้งสามคนมาขายทอดตลาดชำระหนี้ตามสัญญาประกัน เจ้าพนักงานบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดที่ดินของนายเฉลิม เปี่ยมสุขะ นายประกันคนหนึ่งถึง 4 ครั้ง สามครั้งแรกไม่มีผู้สู้ราคา ครั้งที่ 4 มีนายพิมล อึ้งประเสริฐ ผู้ซื้อทรัพย์ผู้ร้องเข้าสู้ราคาเพียงผู้เดียว ให้ราคา 5,000 บาท ศาลชั้นต้นเห็นว่าได้ประกาศขายทอดตลาดที่ดินแปลงนี้มาหลายครั้งแล้ว เพิ่งมีผู้เข้าสู้ราคาครั้งนี้เพียงผู้เดียว และตามแผนที่ที่นารายนี้ไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ จึงอนุญาตให้ขายได้

นายเฉลิมนายประกันอุทธรณ์ว่าราคาที่ขายต่ำกว่าราคาที่กำหนดในสัญญาประกันและราคาที่เจ้าหน้าที่ประเมินมาก ทั้งมีผู้สู้ราคาเพียงคนเดียว ทำให้นายประกันเสียหาย และศาลขาดรายได้ ขอให้ขายใหม่

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วฟังว่า ราคาที่ศาลจังหวัดชัยภูมิอนุญาตให้ขาย ต่ำกว่าราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีตีไว้มาก ทั้งการที่มีผู้เข้าสู้ราคาเพียงคนเดียว ไม่เป็นไปตามวิธีการขายทอดตลาดซึ่งจะต้องมีผู้อื่นเข้าสู้ราคาด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 513-514 พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขายทรัพย์ของนายเฉลิมนายประกันให้แก่ผู้ซื้อในราคา 5,000 บาทเสียให้ดำเนินการขายทอดตลาดใหม่ และการอุทธรณ์คำสั่งของนายประกันในคดีอาญาไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ให้คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ให้นายเฉลิมนายประกันผู้อุทธรณ์ไป

นายพิมล อึ้งประเสริฐ ผู้ซื้อทรัพย์ได้ฎีกาว่าการขายทอดตลาดทรัพย์ในวันนั้นมีทรัพย์ 2 รายการซึ่งทำการขายในขณะเดียวกันมีผู้สู้ราคาหลายคนและศาลจังหวัดชัยภูมิอนุญาตให้ขายทรัพย์รายนี้ให้ผู้ร้องโดยชอบและผู้ร้องชำระราคาครบถ้วนแล้ว การขายทอดตลาดทรัพย์รายนี้ถึงสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 509 ศาลจะนำทรัพย์รายนี้ไปขายทอดตลาดอีกครั้งไม่ได้ และนายเฉลิมนายประกันก็อุทธรณ์แต่เพียงว่าศาลจังหวัดชัยภูมิขายทรัพย์ราคาต่ำมิได้อุทธรณ์ว่าการขายไม่ชอบเนื่องจากมีผู้ราคาคนเดียว ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษานอกประเด็น ขอให้พิพากษายืนตามคำสั่งศาลจังหวัดชัยภูมิ

ศาลฎีกาวินิจฉัยในประเด็นที่ว่าศาลจังหวัดชัยภูมิอนุญาตให้ขายที่ดินของนายเฉลิม เปี่ยมสุขะ นายประกันในราคาต่ำกว่าราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีตีไว้มากหรือไม่นั้นว่า แม้ที่ดินแปลงนี้จะเป็นที่ดินมีโฉนดแล้วและอยู่ในเขตตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิก็จริง แต่สภาพของที่ดินยังเป็นที่นาใช้ปลูกข้าวอยู่ และห่างจากหมู่บ้านเมืองเก่าประมาณ 200 เมตร ทั้งไม่มีทางสาธารณะเข้าถึงที่ดินต้องเดินตามคันนาผ่านที่ดินของผู้อื่นเข้าไปเนื้อที่ทั้งหมด 3 งาน 29 สี่ส่วนสิบวา ใช้ปลูกข้าวได้ประมาณ 3 ใน 4 ของพื้นที่ ได้ข้าวประมาณ 20 – 30 ถังต่อปี สภาพของที่ดินยังห่างต่อความเจริญ ไม่ใช่ทำเลการค้าหรือที่อยู่อาศัย ราคาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีตีไว้ 60,000 บาท เป็นการกะประมาณเอาเอง ศาลจังหวัดชัยภูมิจึงอนุญาตให้ขายได้ นับว่าเป็นคำสั่งโดยควรแก่พฤติการณ์ที่ปรากฏอันเหมาะสมเพราะถ้าหากไม่ขายในคราวนี้ คราวหน้าอาจไม่มีผู้สู้ราคาเช่นครั้งก่อน ๆ ก็ได้ เป็นการสมควรแล้วที่ศาลจังหวัดชัยภูมิสั่งอนุญาตให้ขายที่แปลงนี้ในราคา 5,000 บาทตามที่นายพิมลเสนอให้ราคาขึ้นมา

ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่ามีผู้เข้าสู้ราคาเพียงคนเดียวไม่เป็นไปตามวิธีการขายทอดตลาด ซึ่งจะต้องมีผู้อื่นสู้ราคาด้วย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 513, 514 นั้น เห็นว่าในการขายทอดตลาดทรัพย์รายซึ่งพิพาทกันนี้มีการขายทอดตลาดทรัพย์อื่นด้วยอีก 2 รายการ เจ้าพนักงานบังคับคดีได้โฆษณาบอกขายเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าสู้ราคาได้โดยเปิดเผยแล้วในวันขายทอดตลาด หาใช่ว่ามีผู้สู้ราคาเพียงคนเดียวไม่ ปรากฏว่าเมื่อขายทรัพย์รายการที่หนึ่งกับที่สามนั้น มีผู้สู้ราคา3 คน และ 2 คนตามลำดับ เฉพาะทรัพย์รายการที่สองซึ่งนายประกันอ้างว่าขายทอดตลาดได้ราคาต่ำไปนี้มีแต่นายพิมล อึ้งประเสริฐ เป็นผู้สู้ราคาเพียงคนเดียว ไม่มีผู้อื่นสู้ราคาด้วยอีก อาจจะเป็นเพราะผู้อื่นเห็นว่าราคาที่นายพิมล อึ้งประเสริฐ เสนอขึ้นนั้นเป็นราคาสูงมากอยู่แล้ว หรืออาจไม่พอใจเนื่องจากที่ดินแปลงนี้ไม่มีทางสาธารณะเข้าถึง ต้องอาศัยเดินผ่านที่ดินของผู้อื่นหรือโดยเหตุอื่นก็ได้ จะเป็นเพราะเหตุใดก็ตาม เมื่อไม่มีผู้อื่นสู้ราคาสูงขึ้นไปอีกแล้ว นายพิมล อึ้งประเสริฐ ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้สู้ราคาสูงสุด เจ้าพนักงานบังคับคดีผู้ขายทอดตลาดจึงแสดงความตกลงขายให้แก่นายพิมล อึ้งประเสริฐได้ จะถือว่าการขายทอดตลาดทรัพย์รายซึ่งพิพาทกันนี้ไม่เป็นไปตามวิธีการขายทอดตลาดหาได้ไม่

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำสั่งศาลชั้นต้น

Share