คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 216/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนังสือมอบฉันทะให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน เป็นหนังสือสำคัญตามกฏหมายอาญามาตรา 224
การใช้หนังสือปลอมอันจะ+ผิดตามมาตรา 227
เป็นการนำหนังสือที่ผู้อื่น+มาใช้ ถ้าตนปลอมขึ้นเองและนำเอาไปใช้ด้วย ไม่เป็นผิดตามมาตรา 227
ความผิดฐานปลอมหนังสือ+ม.224 มีอายุความ+ต้องภายใน 5 ปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันทำหนังสือมอบฉันทะ อันเป็นหนังสือสำคัญในราชการปลอม โดยพิมพ์ลายมือนายแก้ว นางภู่ปลอมขึ้นว่านายแก้วนางภู่ มอบฉันทะให้ นายเง้จำเลยเป็นผู้มีอำนาจจัดการยกกรรมสิทธิที่ดินของนายแก้วนางภู่ ให้นางอุ้มจำเลย แล้วจำเลยนำใบมอบฉันทะปลอมไปใช้เป็นหนังสือที่แท้จริง โดยยื่นต่อเจ้าหน้าที่พนักงานหอทะเบียนที่ดิน และจำเลยได้ข้อความเท็จไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานนั้นว่า นายแก้วนางภู่ได้มอบฉันทะให้จำเลยจัดการโอนที่ดินตามในมอบฉันทะ เจ้าพนักงานหลงเชื่อจึงจัดการโอนกรรมสิทธิที่ดิน ให้นางอุ่มจำเลยไป ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๒๒-๒๒๓-๒๒๔-๒๒๕-๒๒๖-๒๒๗,๑๑๘,๖๓,๗๑
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๑๘,๒๒๕,๒๒๗
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า หนังสือมอบฉันทะนั้น จัดเป็นหนังสือสำคัญตามมาตรา ๒๒๔ ฟ้องโจทก์ ว่าจำเลยปลอมวันที่ ๑ มีนาคม ๒๔๘๒ โจทก์ นำคดีมาฟ้อง เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๔๘๘ คดีจึงขาดอายุความ ตามมาตรา ๘๘ เพราะเกิน ๕ ปี และจะยกมาตรา ๒๒๗ มาใช้ไม่ได้ เพราะมาตรานี้หมายถึงการนำหนังสือที่ผู้อื่นปลอมมาใข้จึงเอาผิดจำเลยฐานใช้หนังสือปลอมไม่ได้ นายเง้ จำเลยได้นำหนังสือปลอมมาแสดงแจ้งเท็จต่อพนักงาน เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๔๘๓ จึงมีความผิดตามมาตรา ๑๑๘ เพราะคดียังไม่ขาดอายุความ จึงพิพากษาแก้ให้ลงโทษนายเง้ จำเลยตามมาตรา ๑๑๘ ส่วนนางอุ่มจำเลยไม่ได้ความว่าลวงรู้ในการแจ้งเท็จด้วย จึงไม่ผิดให้ปล่อยตัวไป.

Share