คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2158/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่า ‘ของมีค่า’ ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 620 หมายถึงทรัพย์สินที่มีคุณค่าอันมีลักษณะพิเศษทำนองเดียวกับเงินทองตรา ธนบัตร ฯลฯ เครื่องรับโทรทัศน์ เป็นเพียงทรัพย์สินตามธรรมดาทั่ว ๆ ไปเท่านั้น ถึงแม้ราคาจะค่อนข้างสูงก็ถือไม่ได้ว่าเป็นของมีค่าตามความหมายแห่งบทบัญญัติดังกล่าว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นเจ้าของเครื่องรับโทรทัศน์ยี่ห้อโซนี่ชนิดสีขนาด 14 นิ้วราคา 11,150 บาทเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2525จำเลยซึ่งประกอบอาชีพรับขนคนโดยสารจากกรุงเทพ ฯ ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ได้รับนางวิทราพันธ์ ถาวดีซึ่งเป็นตัวแทนและภริยาของโจทก์จากสถานีขนส่งหมอชิต พนักงานหรือตัวแทนของจำเลยได้รับมอบเครื่องเดินทางและเครื่องรับโทรทัศน์ดังกล่าวจากนางวิทราพันธ์ครั้นรถโดยสารถึงจังหวัดเชียงใหม่ปรากฏว่าเครื่องรับโทรทัศน์สูญหายไปโจทก์ทวงถามให้จำเลยชำระราคาจำเลยเพิกเฉย ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาเครื่องรับโทรทัศน์เป็นเงิน 11,150 บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของเครื่องรับโทรทัศน์จำเลยไม่เคยรับมอบเครื่องรับโทรทัศน์จากโจทก์หรือตัวแทนของโจทก์ เครื่องรับโทรทัศน์เป็นของมีค่าซึ่งโจทก์มิได้แจ้งราคาหรือสภาพแห่งของไว้ขณะส่งมอบแก่จำเลย ค่าเสียหายของโจทก์ไม่เกิน3,000 บาทแต่ตามเงื่อนไขความรับผิดของจำเลยกำหนดไว้ไม่เกิน300 บาทขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยคืนเครื่องรับโทรทัศน์ตามฟ้อง หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา 11,150 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคำว่า ‘ของมีค่า’ ตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 620 หมายถึงทรัพย์สินที่มีคุณค่าอันมีลักษณะพิเศษทำนองเดียวกับเงินทองตรา ธนบัตร ธนาคารบัตรตั๋วเงิน พันธบัตร ใบหุ้น ใบหุ้นกู้ ประทวนสินค้า หรืออัญมณีเครื่องรับโทรทัศน์เป็นเพียงทรัพย์สินตามธรรมดาทั่ว ๆ ไปเท่านั้นถึงแม้ราคาจะค่อนข้างสูงก็ถือไม่ได้ว่าเป็นของมีค่าตามความหมายแห่งบทบัญญัติดังกล่าว แม้โจทก์มิได้บอกราคาหรือสภาพแห่งของไว้ในขณะที่ส่งมอบแก่จำเลยผู้ขนส่ง จำเลยก็ต้องรับผิดชดใช้ราคาเครื่องรับโทรทัศน์ให้โจทก์ตามฟ้อง
พิพากษายืน.

Share