แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คำให้การของจำเลยที่มีข้อความเพียงว่า จ. ได้มอบอำนาจให้อ. เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยหรือไม่ จำเลยไม่ทราบและไม่รับรองเนื่องจากหนังสือมอบอำนาจเอกสารท้ายฟ้องทำไว้นานแล้ว ในช่องผู้ลงชื่อมอบอำนาจจะใช่ลายมือชื่อ จ. ที่แท้จริงหรือไม่ และปัจจุบัน จ. ยังคงเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทโจทก์หรือไม่จำเลยไม่ทราบ และไม่ขอรับรอง เนื่องจากหนังสือรับรองเอกสารท้ายฟ้องเจ้าหน้าที่รับรองไว้นานแล้ว เป็นคำให้การที่ไม่ได้ความแจ้งชัดว่าจำเลยปฏิเสธฟ้องโจทก์ เป็นคำให้การที่ไม่ชัดแจ้ง ไม่ทำให้เกิดประเด็น ถือว่าจำเลยรับข้อเท็จจริงในข้อนั้นตามฟ้องแล้ว หนังสือมอบอำนาจของโจทก์มีข้อความระบุว่า เรียกร้องทวงถามให้ชำระหนี้ แจ้งการบังคับจำนองหรือจำนำ ดำเนินคดีฟ้องร้องแก้ต่างทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา เป็นการมอบอำนาจที่ผู้รับมอบอำนาจสามารถดำเนินการฟ้องร้องผู้ที่โต้แย้งสิทธิของโจทก์ได้ เมื่อจำเลยกระทำการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ผู้รับมอบอำนาจย่อมมีอำนาจดำเนินคดีฟ้องร้องจำเลยแทนโจทก์ได้ตามที่ระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจโดย ไม่จำต้องระบุชื่อผู้โต้แย้งสิทธิของโจทก์ในหนังสือมอบอำนาจ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด มีกรรมการ7 คน นางแจ่มจิตต์ เลาหวัฒน์ เป็นกรรมการด้วยคนหนึ่ง กรรมการคนหนึ่งลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของโจทก์มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ได้ โจทก์มอบอำนาจให้นายอนันต์ชัย นิมมานเหมินท์ฟ้องคดีแทนโจทก์ จำเลยทั้งสองทำสัญญาเช่าที่ดินของโจทก์มีกำหนดเวลา 1 ปี ในอัตราค่าเช่าเดือนละ 1,200 บาท เมื่อสัญญาเช่าครบกำหนดจำเลยทั้งสองคงเช่าต่อไปไม่มีกำหนดเวลา ต่อมาโจทก์ไม่ประสงค์ให้จำเลยทั้งสองเช่าจึงให้ทนายความมีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าขอให้บังคับจำเลยทั้งสองและบริวารรื้อสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดินโจทก์ห้ามเข้ามาเกี่ยวข้องอีกต่อไป และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า นางแจ่มจิตต์ เลาหวัฒน์ จะมอบอำนาจให้นายอนันต์ชัย นิมมานเหมินทร์ เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองหรือไม่จำเลยไม่ทราบและไม่ขอรับรอง เนื่องจากหนังสือมอบอำนาจทำไว้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2527 หนังสือมอบอำนาจมิได้ระบุให้ฟ้องจำเลยทั้งสอง ลายมือชื่อผู้มอบอำนาจจะใช่ลายมือชื่อนางแจ่มจิตต์ เลาหวัฒน์ หรือไม่ จำเลยไม่ทราบและไม่ขอรับรองนางแจ่มจิตต์ เลาหวัฒน์ ยังคงเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์หรือไม่ จำเลยไม่ทราบและไม่ขอรับรอง เนื่องจากหนังสือรับรองเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1 เป็นหนังสือที่เจ้าหน้าที่รับรองไว้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2529 โจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนและขนย้ายสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดิน ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยทั้งสองว่า คำให้การจำเลยทั้งสองเกี่ยวกับเรื่องโจทก์มอบอำนาจให้นายอนันต์ชัยฟ้องคดีแทนเป็นคำให้การที่ชัดแจ้งหรือไม่ ในข้อนี้จำเลยให้การว่านางแจ่มจิตต์ เลาหวัฒน์ จะมอบอำนาจให้นายอนันต์ชัย นิมมานเหมินท์ เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้จริงหรือไม่ จำเลยทั้งสองไม่ทราบและไม่ขอรับรอง เนื่องจากหนังสือมอบอำนาจเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2 ทำไว้ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม2527 เอกสารท้ายฟ้องดังกล่าว ในช่องผู้ลงชื่อมอบอำนาจจะใช่ลายมือชื่อนางแจ่มจิตต์ เลาหวัฒน์ ที่แท้จริงหรือไม่ จำเลยทั้งสองไม่ทราบและไม่ขอรับรอง และปัจจุบันนางแจ่มจิตต์ เลาหวัฒน์ จะยังคงเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทโจทก์หรือไม่ จำเลยทั้งสองไม่ทราบและไม่ขอรับรอง เนื่องจากหนังสือรับรองเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 1 เป็นหนังสือที่เจ้าหน้าที่รับรองไว้ตั้งแต่วันที่ 15พฤษภาคม 2529 เห็นว่า จำเลยทั้งสองให้การในข้อนี้เพียงว่าไม่ทราบและไม่รับรอง ซึ่งไม่ได้ความแจ้งชัดว่าจำเลยทั้งสองปฏิเสธฟ้องโจทก์ คำให้การจำเลยทั้งสองในข้อนี้จึงเป็นคำให้การที่ไม่ชัดแจ้ง และไม่ทำให้เกิดประเด็น ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่าคำให้การจำเลยทั้งสองส่วนนี้ไม่ชัดแจ้ง และถือว่าจำเลยทั้งสองรับข้อเท็จจริงตามฟ้องแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
จำเลยทั้งสองฎีกาข้อสุดท้ายว่า หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ที่มอบอำนาจให้นายอนันต์ชัยฟ้องคดีแทนโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะมิได้ระบุให้ฟ้องจำเลยทั้งสองนั้น พิเคราะห์แล้วหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.4 ข้อ 4 ระบุไว้ว่า “เรียกร้อง ทวงถามให้ชำระหนี้ แจ้งการบังคับจำนองหรือจำนำ ดำเนินคดีฟ้องร้อง แก้ต่างทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา รวมทั้งการร้องทุกข์ ฯลฯ” เห็นว่า ตามข้อความในหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวเป็นการมอบอำนาจที่ผู้รับมอบอำนาจสามารถดำเนินการฟ้องร้องผู้ที่โต้แย้งสิทธิของโจทก์ได้ต่อมาปรากฏว่า จำเลยทั้งสองกระทำการโต้แย้งสิทธิของโจทก์นายอนันต์ชัยจึงมีอำนาจดำเนินคดีฟ้องร้องจำเลยทั้งสองแทนโจทก์ได้ตามที่ระบุไว้ในหนังสือมอบอำนาจโดย ไม่จำต้องระบุชื่อผู้โต้แย้งสิทธิในหนังสือมอบอำนาจ เพราะไม่มีกฎหมายบังคับไว้ ฎีกาข้อนี้ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน