คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2154/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้นต้องถือว่าเกิดขึ้นในตำบลที่ข้อความหมิ่นประมาทปรากฏขึ้นด้วย โจทก์บรรยายถึงที่เกิดเหตุในฟ้องคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสารหนังสือพิมพ์ว่า” ฯลฯ เหตุเกิดที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ นน.ปช.แขวงวัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานครและตลอดทั่วราชอาณาจักรไทย เพราะหนังสือพิมพ์ นน.ปช. มีจำหน่ายทั่วราชอาณาจักร ฯลฯ” เช่นนี้พอเข้าใจได้แล้วว่าหนังสือพิมพ์ที่มีข้อความหมิ่นประมาทนั้นปรากฏขึ้นในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย จึงต้องถือว่าความผิดได้เกิดในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งย่อมรวมทั้งอำเภอที่อยู่ในเขตอำนาจศาลแขวงเชียงใหม่ด้วย โจทก์จึงมีสิทธิยื่นฟ้องต่อศาลแขวงเชียงใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22 และคำบรรยายฟ้องดังกล่าวเป็นการบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว ศาลแขวงเชียงใหม่จึงต้องดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องให้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าของ ผู้อำนวยการ บรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณาหนังสือพิมพ์ชื่อ “นน.ปช.” ซึ่งตีพิมพ์จำหน่ายทั่วอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 2 มีนาคม 2518เวลากลางวันและกลางคืนติดต่อกัน จำเลยได้ตีพิมพ์โฆษณาและจัดให้เผยแพร่ซึ่งข้อความอันเป็นการใส่ความหมิ่นประมาทโจทก์ในหนังสือพิมพ์ดังกล่าวฉบับที่ 25 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม2518 โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง คือตีพิมพ์โฆษณาพาดหัวข่าวว่า “น.ส.พ.ไถดะ บ้ากาม อาละวาด” และดำเนินข้อความเป็นข่าวต่อไปว่า ฯลฯ จำเลยเจตนากล่าวหมายถึงตัวโจทก์ใจความดังกล่าวเป็นความเท็จและมิได้เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตทำให้โจทก์เสียหายเหตุเกิดที่สำนักงานหนังสือพิมพ์ นน.ปช. แขวงวัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานครและตลอดทั่วราชอาณาจักรไทยเพราะหนังสือพิมพ์ นน.ปช. มีจำหน่ายทั่วราชอาณาจักรไทย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 ให้ยึดและทำลายหนังสือพิมพ์ นน.ปช. ฉบับที่ 25 และให้จำเลยตีพิมพ์โฆษณาคำพิพากษาของศาลทั้งหมดในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ นน.ปช. เดลินิวส์ ประชาธิปไตย และสยามรัฐเป็นเวลา 5 วันติดต่อกันโดยให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าพิมพ์โฆษณา

ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องโจทก์ โดยเห็นว่าความผิดเกิดในเขตกรุงเทพฯ การที่หนังสือพิมพ์มีการวางจำหน่ายทั่วราชอาณาจักรนั้นเป็นผลที่เกิดจากการกระทำผิดดังกล่าว

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องไม่แน่ว่าเหตุเกิดในเขตอำนาจศาลแขวงเชียงใหม่หรือไม่ ไม่ชี้ข้อเท็จจริงและรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จำเลยจะเข้าใจข้อหาได้ดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5) เป็นฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงพิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้นต้องถือว่าเกิดขึ้นในตำบลที่ข้อความหมิ่นประมาทปรากฏขึ้นด้วย คดีนี้ตามคำบรรยายฟ้องพอเข้าใจได้แล้วว่าหนังสือพิมพ์ที่มีข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ปรากฏขึ้นในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย จึงต้องถือว่าความผิดได้เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งย่อมรวมทั้งอำเภอที่อยู่ในเขตอำนาจศาลแขวงเชียงใหม่ด้วย โจทก์จึงมีสิทธิยื่นฟ้องต่อศาลแขวงเชียงใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 22 และโจทก์ได้บรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)

พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเสียใหม่ตามรูปความ

Share