คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2149/2545

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้อัตราโทษตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกฯ มาตรา 102(3 ทวิ),127 ทวิ วรรคสอง กับโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ มาตรา 43 ทวิ วรรคหนึ่ง,157 ทวิ วรรคสอง จะเท่ากัน แต่พระราชบัญญัติจราจรทางบกฯ มาตรา 157 ทวิ วรรคสองมีบทบัญญัติให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยไม่น้อยกว่าหกเดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ อันเป็นมาตรการทำนองเดียวกับวิธีการเพื่อความปลอดภัยในการที่จะคุ้มครองประชาชนทั่วไปมิให้ได้รับอันตรายที่เกิดจากการกระทำของจำเลย การที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกฯ มาตรา 102(3 ทวิ),127 ทวิ วรรคสอง และไม่พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยนั้น เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นฎีกา เมื่อศาลฎีกาไม่เห็นด้วยก็มีอำนาจวินิจฉัยได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 4, 7, 57, 91 พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 102, 102(3 ทวิ), 127 ทวิ วรรคสอง พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 ทวิ,157 ทวิ วรรคสอง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของจำเลย

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 57, 91 พระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 102(3 ทวิ), 127 ทวิ วรรคสอง พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 ทวิ (ที่ถูก มาตรา 43 ทวิ วรรคหนึ่ง), 157 ทวิ วรรคสอง การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ความผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 102 (3 ทวิ), 127 ทวิ วรรคสอง เพียงบทเดียวตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จำคุก 1 ปี และปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือนและปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และคุมความประพฤติของจำเลยโดยให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือนต่อครั้ง ภายในระยะเวลา 2 ปี ให้จำเลยทำงานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควรมีกำหนด 24 ชั่วโมงภายในระยะเวลา1 ปี ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษและสารระเหยทุกชนิด โดยยินยอมให้มีการตรวจสอบการใช้ยาเสพติดให้โทษ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 และเมื่อศาลลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 จึงสั่งพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยไม่ได้ ให้ยกคำขอส่วนนี้

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษ ไม่ลงโทษปรับและไม่คุมความประพฤติของจำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่าสมควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยเสพเมทแอมเฟตามีนขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถยนต์บรรทุกหกล้อไปตามถนนสาธารณะ จำเลยย่อมไม่อาจใช้ความระมัดระวังในการขับรถได้ดังเช่นในภาวะปกติ จึงอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่นซึ่งใช้เส้นทางเดินรถร่วมกับจำเลยได้ทุกขณะ พฤติการณ์ในการกระทำความผิดของจำเลยนับว่าร้ายแรง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3ใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

อนึ่ง แม้อัตราโทษที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 102 (3 ทวิ), 127 ทวิ วรรคสอง กับโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 43 ทวิ วรรคหนึ่ง, 157 ทวิ วรรคสอง จะมีอัตราโทษเท่ากันแต่พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 157 ทวิ วรรคสอง มีบทบัญญัติให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยมีกำหนดไม่น้อยกว่าหกเดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ของจำเลย อันเป็นมาตรการทำนองเดียวกันกับวิธีการเพื่อความปลอดภัยในการที่จะคุ้มครองประชาชนทั่วไปมิให้ได้รับอันตรายที่อาจเกิดจากการกระทำของจำเลยที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 102 (3 ทวิ), 127 ทวิ วรรคสอง และไม่พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225 ทั้งโทษจำคุกที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 กำหนดมานั้นหนักเกินไป ศาลฎีกาเห็นสมควรปรับบทลงโทษและกำหนดโทษเสียใหม่ให้เหมาะสมแก่รูปคดี”

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 ทวิ วรรคหนึ่ง, 157 ทวิ วรรคสอง ประกอบด้วยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 91 จำคุก 8 เดือน เมื่อลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 4 เดือน กับให้พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของจำเลยมีกำหนด 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3

Share